นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินมีความมุ่งมั่นในการเป็นรัฐวิสาหกิจชั้นดี เพื่อที่จะสามารถมีความอิสระในการบริหารจัดการโครงสร้างค่าตอบแทนพนักงานและในการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน โดยผลงานในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมามีความเติบโตอย่างโดดเด่น รวมทั้ง ตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชน และจัดทำกิจกรรมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง
ด้านผลดำเนินงานมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา โดย ณ สิ้นเดือน พ.ย.53 ธนาคารมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 1.34 ล้านล้านบาท เงินฝากอยู่ที่ 1.14 ล้านล้านบาท ส่วนสินเชื่ออยู่ที่ 1.04 ล้านล้านบาท โดยในปีนี้สินเชื่อมีอัตราเติบโตราว 8% และธนาคารได้เปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีก 100 แห่ง และติดตั้งตู้เอทีเอ็ม 1,500 ตู้
ขณะที่สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารได้ปรับลดลงมากกว่าเป้าหมาย โดย ณ สิ้นเดือน พ.ย.53 ธนาคารมี NPL อยู่ที่ 1.43% หรือคิดเป็นยอดหนี้ NPL คงค้างที่ 1.7 หมื่นล้านบาท จากเมื่อกว่า 2 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 3.76% หรือคิดเป็นยอดหนี้ NPL ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท และเป้าหมายในปีนี้ตั้งไว้ว่าจะลดลงให้เหลือราว 2%
"ถือเป็นความสำเร็จในการมีวิสัยทัศน์ของธนาคารที่เน้นการให้ความช่วยเหลือผู้เดือดร้อน ขณะที่ได้รับการตอบแทนจากลูกค้าด้วยวินัยการชำระหนี้ ทำให้การขยายตัวของธนาคารมีความโดดเด่น"นายเลอศักดิ์ กล่าว
ธนาคารยังมีพอร์ตลงทุนประมาณ 2 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้และพันธบัตร โดยการบริการพอร์ตลงทุนมีความยืดหยุ่นและคล่องตัว สามารถปรับสภาพไปได้ตามภาวะตลาดที่มีการออกหุ้นกู้ที่น่าสนใจมาสู่ตลาด ขณะที่โครงสร้างรายได้ของธนาคารส่วนใหญ่เป็นรายได้จากดอกเบี้ยหรือประมาณ 90% ขณะที่ค่าธรรมเนียมมีสัดส่วนเพียง 10%
นายเลอศักดิ์ กล่าวว่า ในปีนี้ธนาคารเชื่อว่าจะสามารถนำส่งเงินให้รัฐจากผลการดำเนินงานประมาณได้มากกว่าปีก่อนที่ได้นำส่งเงินเข้าคลังไปถึง 8 พันล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกนำส่งเงินไปแล้ว 3.9 พันล้านบาท เมื่อถึงสิ้นปีน่าจะทำได้มากกว่าปีก่อน
นายเลอศักดิ์ กล่าวว่า ธนาคารมีแผนจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนจะรับพนักงานเพิ่มขึ้นถึง 1,500 คนในปีหน้า จากขณะนี้มีพนักงาน 12,000 คน และลูกจ้างประจำอีก 1,700 คน รวมทั้งมีแผนลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่(data center) หลังจากได้พัฒนาระบบ call banking จนเป็นที่ยอมรับของกระทรวงการคลังที่ได้มอบหมายให้ธนาคารเป็นศูนย์กระจายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา ทำให้การแจกจ่ายเงินไปสู่เป้าหมาย 5 แสนคนทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ธนาคารมีโครงการกิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพ วิ่งผลัดมหาสมุทรสู่มหาสมุทร ครึ่งที่ 6 เริ่มต้นจากฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิค ที่ จ.สงขลา ไปสิ้นสุดที่ฝั่งมหาสมุทรอินเดียวที่ จ.สตูล พร้อมจัดกิจกรรมควบคู่ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อร่วมฟื้นฟูจากเหตุภัยพิบัติน้ำท่วม ซึ่งธนาคารได้ใช้ จ.สขลาเป็นศูนย์กลางกระจายความช่วยเหลือไปยังจังหวัดอื่น ๆ ใกล้เคียง พร้อมทั้งมีกิจกรรม เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม(CSR)ด้วยการร่วมกับ อ.ปากรอ จ.สงขฃา ปล่อยพันธุ์ปลานิลและกุ้งก้ามกราม 1 ล้านตัวลงสู่ธรรมชาติ เพื่อฟื้นฟูสภาพนิเวศน์ที่ถูกทำลายจากพายุดีเปรสชั่น