นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าจะเชิญผู้ผลิตสินค้าอุปโภคและบริโภค รวมถึงภาคอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงาน เช่น สิ่งทอ มาประเมินสถานการณ์และรับฟังปัญหา หลังจากที่รัฐบาลจะพิจารณาเพิ่มอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำทั่วประเทศอีกวันละ 8-17 บาท ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.54 ซึ่งน่าจะมีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า อีกทั้งราคาสินค้าเกษตรยังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จึงต้องเชิญมาหารือเพื่อประเมินสถานการณ์ต้นทุนการผลิตใหม่
"การประชุมครั้งนี้ รมว.พาณิชย์จะเป็นประธาน เปิดรับฟังปัญหาและพิจารณาต้นทุนที่แท้จริงของผู้ประกอบการ และอุตสาหกรรมที่ไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนต่อไปได้ หลังจากที่ขอให้ตรึงราคาสินค้าตลอดปี 53 แต่การปรับขึ้นราคาคงไม่ใช่ทั้งหมด เพราะยังมีการแข่งขันด้านตลาด ที่ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายยังไม่ปรับขึ้นราคาสินค้าได้ทันที เพราะอาจเสียลูกค้า แต่กลุ่มที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นปีหน้า เช่น ปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูพืช น้ำมันปาล์ม ฯลฯ ซึ่งกรมจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย" นางวัชรีกล่าว
พร้อมกันนี้ กรมการค้าภายในจะตั้งคณะทำงานชุดต่างๆ เพื่อพิจารณาการปรับขึ้นราคาสินค้าให้เป็นไปตามต้นทุนที่แท้จริง เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ส่วนมาตรการช่วยเหลือประชาชนนั้น จะยังคงเน้นการจัดงานธงฟ้า ที่นำสินค้าราคาถูกมาจำหน่ายให้ประชาชน ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนได้ และคงไม่ทำให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นมากนัก
ด้านนายสุกิจ คงปิยาจารย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยการปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำที่ไม่สอดคล้องกันทั้งประเทศ เพราะจะทำให้ความสามารถในการแข่งขันสินค้าไทยให้ลดลง โดยภาคแรงงานในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มมี 400,000-500,000 คน เมื่อรวมกับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่า และราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ทำให้การส่งออกเครื่องนุ่งห่มปีหน้าน่าจะไม่ขยายตัว หรือติดลบ 0-5% จากปีนี้ที่ขยายตัว 10%