รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) เปิดเผยว่า ยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-พ.ย.53) อยู่ที่ 1,409 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 992 ราย หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 42% โดยมีเงินลงทุน 3.77 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินลงทุน 3.55 แสนล้านบาท ส่งผลให้เกิดการจ้างงานทั้งสิ้น 162,789 คน
สำหรับประเทศที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด คือ ญี่ปุ่น 337 โครงการ รองลงมา คือ ยุโรป 177 โครงการ, สิงคโปร์ 76 โครงการ, สหรัฐอเมริกา 56 โครงการ, ไต้หวัน 43 โครงการ และ ฮ่องกง 25 โครงการ โดยประเภทกิจการที่มีการลงทุนมากสุด 3 อันดับแรก คือ ธุรกิจบริการและสาธารณูปโภค รองลงมา คือ ธุรกิจผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง อันดับสาม ธุรกิจเกษตรกรรม และผลิตผลจากการเกษตร
แต่หากเป็นประเภทกิจการที่มีเงินลงทุนสูงสุด 3 อันดับแรก คือ ธุรกิจบริการและสาธารณูปโภค เงินลงทุน 1.44 แสนล้านบาท รองลงมา ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องไฟฟ้า เงินลงทุน 6.3 หมื่นล้านบาท และอันดับสาม ธุรกิจผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง เงินลงทุน 5.2 หมื่นล้านบาท
ส่วนยอดการอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 1,420 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 905 ราย โดยมีเงินลงทุน 4.56 แสนล้านบาท