แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ โกลบอล รีเสิร์ช เปิดเผยในรายงาน "2011 Year Ahead" ว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวปานกลางที่ 4% ในปี 2554 และคาดว่าวงจรการซื้อขายที่คึกคักในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งเริ่มตั้งตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 เรื่อยมานั้น ยังไม่สิ้นสุดลง
รายงานของ แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ โกลบอล รีเสิร์ช ระบุว่า เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่จะมีอัตราการขยายตัวที่แตกต่างกันมาก ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจและนโยบายที่แตกต่างกัน โดยคาดว่ากลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่จะมีส่วนช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกได้มากกว่า 1 ใน 3
เมอร์ริล ลินช์ โกลบอล รีเสิร์ช คาดว่า สภาพคล่องส่วนเกินจะเป็นเหตุให้ราคาหลักทรัพย์ทั่วโลกสูงขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐและกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ขณะเดียวกันคาดว่าในปีหน้านั้น รายได้จากการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรจะปรับตัวขึ้นปานกลาง สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น และถือเป็นปีราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะปรับตัวสูงขึ้นด้วย
"เศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัวจากภาวะวิกฤต ซึ่งเราเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถฟื้นตัวในปี 2554 และคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวปานกลางเมื่อเทียบกับในปี 2553" อีธาน แฮร์ริส หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วของแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ โกลบอล รีเสิร์ชกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน