ม.หอการค้าไทย เผย 10 อันดับธุรกิจดาวรุ่ง - ดาวร่วง ประจำปี 54

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 16, 2010 16:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการสำรวจ 10 ธุรกิจเด่นในปี 54 ว่า ได้แก่ 1.ธุรกิจบริการทางการแพทย์ และยา เพราะคนให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น และลูกค้าต่างชาติมองว่าการรักษาของประเทศไทยมีคุณภาพดี ราคาไม่แพง จำนวนผู้เข้ามาใช้บริการจึงน่าจะเพิ่มมากขึ้น

2. สถานีบริการและจำหน่ายก๊าซหุงต้ม (LPG) และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) เพราะราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ผู้ใช้รถติดตั้งถัง LPG และ NGV มากขึ้น ประกอบกับภาครัฐยังคงมาตรการตรึงราคาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการใช้เพิ่มขึ้น 3. สถาบันการเงินมีทิศทางที่ดีขึ้น ดูได้จากการปล่อยสินเชื่อและผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

4.กระดาษและสิ่งพิมพ์ หรือธุรกิจที่เกี่ยวกับการผลิตกระดาษและสิ่งพิมพ์ เช่น โปสเตอร์ หนังสือ เพราะในปีหน้าอาจจะมีการเลือกตั้งใหม่ และภาครัฐยังคงเร่งการประชาสัมพันธ และจัดโครงการรณรงค์เพื่อนำเสนอนโยบาย เช่น ไทยเข้มแข็ง การท่องเที่ยว ผ่านการพิมพ์เอกสารเผยแพร่ 5.ธุรกิจเคมีภัณฑ์ โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น สบู่ ยาสีฟัน

6.อาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ กลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่ม เป็นต้น 7.พลังงานทดแทน เพราะปริมาณความต้องการใช้เอทานอลมีแนวโน้มเติบโต จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และภาครัฐส่งเสริมให้ใช้พลังงาทดแทนอย่างต่อเนื่อง 8.ยานยนต์ เพราะมีการแนะนำรถยนต์และจักรยายนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดมากขึ้น รวมถึงการส่งออกยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

9. การศึกษา เช่น โรงเรียนกวดวิชา สถาบันสอนภาษา เพราะความต้องการเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของเยาวชน ทำให้ธุรกิจเหล่านี้เป็นที่นิยมมากสำหรับนักเรียนทุกระดับ และ10.ยางพารา และผลิตภัณฑ์ยาง มีแนวโน้มขยายตัวดีและการส่งออกไปจีนยังมีความต้องการมาก

ขณะที่ธุรกิจดาวร่วงของปี 54 ได้แก่ 1.รับเหมาก่อสร้างขนาดเล็ก 2.ร้านค้าโชว์ห่วย 3.ของเด็กเล่น 4.คอนโดมิเนียม นอกแนวรถไฟฟ้า 5.อุตสาหกรรมฟอกย้อม 6.เฟอร์นิเจอร์ 7.โรงงานทอผ้า 8. บ้าน 9.อาคารสำนักงาน 10.เครื่องหนัง 11.สถานบันเทิงขนาดเล็ก และ 12.สิ่งทอ

"การประเมินดังกล่าว ประเมินจากยอดขาย ความสามารถในการควบคุมต้นทุน กำไร และการรับแรงกระทบจากปัจจัยต่างๆ ภายใต้สถานการณ์ที่ภาวะเศรษฐกิจไทยปีหน้าขยายตัวที่ 4-5% การลงทุนขยายตัว 8.5% การบริโภคภาคเอกชนขยายตัว 4.2% การส่งออกโต 10.5% ภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 5.2% ภาคเกษตรโต 2.7% และมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น 2%" นายธนวรรธน์กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ