กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานสัปดาห์ที่แล้วลดลง 3,000 ราย แตะระดับ 420,000 ราย ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลงแตะระดับ 422,750 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2551 และทำสถิติลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการสร้างบ้านในเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.9% แตะระดับ 555,000 หลัง ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งเป็นมาตรวัดดุลการค้าระหว่างประเทศ เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.272 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 หรือคิดเป็นสัดส่วน 3.5% ของตัวเลขจีดีพี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2551 และยังทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 5 ไตรมาส
-- ผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งเป็นกลไกถาวรเพื่อป้องกันการเกิดวิกฤตหนี้สาธารณะในอนาคต
-- นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CCTV ว่า ธนาคารกลางของหลายประเทศตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากในการใช้นโยบายการเงิน และเป็นเรื่องยากที่จะตอบสนองความต้องการของทุกฝ่ายด้วยการใช้นโยบายการเงินเพียงไม่กี่นโยบาย พร้อมกับยกตัวอย่างของนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน โดยชี้ว่าหากสกุลเงินแข็งค่าขึ้น กลุ่มผู้ส่งออกก็จะไม่พอใจ แต่การแข็งค่าของค่าเงินนั้นกลับเป็นประโยชน์กับกลุ่มธุรกิจนำเข้า
-- ซูฮาร์โต ฮองโกคูซูโม ผู้อำนวยการสมาคมยางอินโดนีเซียคาดการณ์ว่า ยอดส่งออกยางจะเพิ่มขึ้นทะลุ 2.592 ล้านตันในปีหน้า หรือเพิ่มขึ้น 8% จากเป้าของปีนี้ เนื่องจากผลผลิตและอุปสงค์ทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น
-- รายงานผลสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการกองทุนทั่วโลกซึ่งจัดทำโดย HSBC ระบุว่า ผู้จัดการกองทุนส่วนใหญ่ทั่วโลกเข้าลงทุนในภูมิภาคที่มีการขยายตัวรวดเร็ว เช่น กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) มากที่สุดในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้
-- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 277 ต่อ 148 เสียง ผ่านร่างกฎหมายการขยายโครงการลดหย่อนภาษีมูลค่า 8.58 แสนล้านดอลลาร์ออกไปอีก 2 ปี หลังจากที่ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวได้ผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภาไปเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้
โดยร่างกฎหมายฉบับนี้จะถูกส่งต่อให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
-- นายจอห์น ซัง รมว.คลังฮ่องกง แสดงความยินดีที่ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ตัดสินใจปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือสกุลเงินต่างประเทศและสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกงระยะยาวจาก AA+ เป็น AAA ซึ่งถือเป็นระดับสุดนับตั้งแต่ฮ่องกงเคยได้รับการจัดอับดับความน่าเชื่อถือ
-- กรมตำรวจออสเตรเลีย กล่าวว่า จูเลียน อาสซานจ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์วิกิลีกส์ ไม่ได้ละเมิดกฎหมายใดๆ ของออสเตรเลีย หลังจากที่สำนักงานอัยการกลางออสเตรเลียได้ส่งเรื่องนายอาสซานจ์และเว็บไซต์วิกิลีกส์ให้กรมตำรวจตรวจสอบเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
-- สถาบันจัดอันดับเครดิตระหว่างประเทศ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของไอร์แลนด์ลลงสู่ระดับ Baa1 จาก Aa2 โดยแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นเชิงลบ หลังจากวิกฤตหนี้สาธารณะได้บีบให้รัฐบาลไอร์แลนด์ต้องขอรับความช่วยเหลือจากภายนอก
-- คณะกรรมการบริหารของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) มีมติอนุมัติเงินกู้ 2.25 หมื่นล้านยูโร (3.01 หมื่นล้านดอลลาร์) ให้กับไอร์แลนด์ โดยเงินกู้ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการให้ความช่วยเหลือรวมมูลค่า 8.5 หมื่นล้านยูโรซึ่งจัดหาโดยไอเอ็มเอฟและสหภาพยุโรป (อียู)
-- สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่นกล่าวว่า ยอดขายรถใหม่ในญี่ปุ่นมีแนวโน้มร่วงลง 9.9% ในปีหน้าเมื่อเทียบกับปีนี้ แตะที่ 4,465,000 คัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 34 ปี เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นยกเลิกมาตรการช่วยเหลือผู้ซื้อรถเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจประเทศยังขาดความแน่นอน