นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันเปิดสถาบันวัคซีนแห่งชาติอย่างเป็นทางการ หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้ผ่านความเห็นชอบในหลักการระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 พ.ย. โดยสถาบันแห่งนี้จะเป็นกลไกหลักสำคัญในการเดินหน้างานด้านวัคซีนของประเทศไทย ภายใต้นโยบายของคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ และจะเป็นกลไกสำคัญในการจัดทำแผนงานโครงการประสานงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
"ในวันนี้ได้มีการลงนามระหว่างมหาวิทยาลัยมหิดลกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในการที่จะร่วมมือกันพัฒนาวัคซีนสำคัญคือวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก" รมว.สธ. กล่าว
สาเหตุที่ประเทศไทยจำเป็นต้องจัดตั้งสถาบันวัคซีนแห่งชาติขึ้น เนื่องจากในอดีตไทยถือเป็นประเทศหนึ่งที่มีศักยภาพในการผลิตวัคซีนใช้เองได้อย่างน้อย 8 ตัว แต่ปัจจุบันด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งการขาดกลไกในการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ขาดความต่อเนื่องในการพัฒนาวัคซีน ทั้งด้านศักยภาพและองค์ความรู้ ขณะนี้ไทยผลิตวัคซีนใช้เองได้เพียง 2 ตัว คือวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอีผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม และวัคซีนป้องกันวัณโรคในเด็กผลิตโดยสภากาชาดไทย
โครงการผลิตวัคซีนครั้งนี้ ได้จัดทำแผนงานในระยะเวลา 10 ปี ตั้งเป้าหมายจะผลิตวัคซีนพื้นฐานใช้เองไม่น้อยกว่า 7 ตัว เพื่อพึ่งตนเองด้านวัคซีนให้ได้ ใช้งบประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลจัดงบประมาณให้ 4,000 ล้านบาท ส่วนภาคเอกชนสนับสนุนให้อีก 1,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันจะร่วมมือกับต่างประเทศพัฒนาวัคซีนอื่น ๆ ด้วย ทั้งนี้เพื่อให้เราพึ่งตนเองได้และลดการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศซึ่งมีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 3,000 ล้านบาท หากผลิตแล้วมีเหลือใช้ ก็จะส่งออกไปขายต่างประเทศได้ด้วย ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายว่าภายใน 10 ปีไทยจะเดินหน้าไปสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตวัคซีนในภูมิภาคอาเซียนด้วย
ทั้งนี้ วัคซีนพื้นฐาน 7 ตัว ที่ตั้งเป้าผลิตได้แก่ 1.วัคซีนคอตีบ 2.วัคซีนไอกรน 3.วัคซีนบาดทะยัก ซึ่งวัคซีนทั้ง 3 ตัวนี้ตั้งเป้าจะผลิตให้ได้ภายใน 2 ปี 4.วัคซีนตับอักเสบบี ตั้งเป้าผลิตภายใน้ 4 ปี 5.วัคซีนวัณโรค จะขยายการผลิตออกไปอีกภายใน 5 ปี 6. วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี จะผลิตให้ได้ภายใน 5 ปี และสุดท้าย 7. วัคซีนไข้เลือดออกตั้งเป้าผลิตให้ได้ภายใน 10 ปี สำหรับความร่วมมือการผลิตวัคซีนไข้เลือดออกระหว่างมหาวิทยาลัย มหิดลกับกระทรวงสาธารณสุข ตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถนำมาใช้ทดสอบในคนได้ภายใน 2-3 ปี นายจุรินทร์กล่าว