(เพิ่มเติม) ครม.ศก.ให้พาณิชย์เกาะติดราคาน้ำมันพืช-นม-ชุดนักเรียน-ปุ๋ย-มะพร้าว

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 20, 2010 14:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ติดตามและกำกับดูแลการปรับราคาสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่มีแนวโน้มปรับราคาเพิ่มขึ้นในกลุ่มน้ำมันพืช, ผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรซ์, เครื่องแบบนักเรียน, ปุ๋ยเคมี และ มะพร้าว โดยเร่งพิจารณาความอัตราราคาที่เหมาะสมต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้สำรวจภาพรวมราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และได้ดำเนินการกำกับดูแลราคาสินค้าในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งศึกษาผลกระทบของต้นทุนสินค้า และให้กระทรวงพาณิชย์ไปพิจารณาโครงสร้างราคาสินค้าทั้ง 5 ตัว ก่อนที่จะมีกลับมาเสนอครม.เศรษฐกิจครั้งต่อไป

นายวัชระ กรรณิกา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันนี้ได้มีการรายงานเรื่องราคาน้ำมันปาล์มที่นำมาผลิตเป็นน้ำมันพืชขอปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น แต่นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงการบริโภคน้ำมันพืชประเภทอื่น ๆ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง ซึ่งอธิบดีกรมการค้าภายในได้ชี้แจงว่าต้นทุนน้ำมันถั่วเหลืองยังไม่ได้ปรับเพิ่มสูงขึ้น จึงได้มอบหมายให้ไปตรวจสอบโครงสร้างราคาน้ำมันพืชทั้งระบบว่าจะมีเกณฑ์

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การพิจารณาเรื่องของราคาสินค้าในวันนี้ ได้มีการพิจารณาผลกระทบทั้งเรื่องค่าแรงและราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงชึ้น แต่ในเบื้องต้นมีเพียงสินค้าบางตัวเท่านั้นที่ขอปรับราคา อย่างเช่น น้ำมันพืช และนม เนื่องจากราคาปาล์มผันผวนค่อนข้างมาก และรัฐบาลเพิ่มปรับราคารับซื้อราคาน้ำนมดิบเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์รายงานการศึกษาผลกระทบของต้นทุนสินค้าจากการแข็งค่าของเงินบาท จากการติดตามราคาวัตถุดิบและค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น สินค้าที่ศึกษาผลกระทบมีการใช้ราคาวัตถุดิบนำเข้าร้อยละ 30 - 90 ราคาวัตถุดิบสูงขึ้นร้อยละ 35 - 84 และเงินบาทแข็งค่าขึ้นร้อยละ 10 ส่งผลกระทบต่อต้นทุนสินค้า

แบ่งเป็น สินค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก คือ กลุ่มที่ใช้วัตถุดิบนำเข้าเป็นหลัก (ประมาณร้อยละ 80-90) ได้แก่ กระดาษลูกฟูก กระดาษพิมพ์/เขียน แบตเตอรี่รถยนต์ เหล็ก สายไฟฟ้า น้ำมันหล่อลื่น ปุ๋ยเคมี และยากำจัดศัตรูพืช

และกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบเล็กน้อย คือ กลุ่มที่ใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก และกลุ่มที่นำเข้าวัตถุดิบนำเข้าประมาณร้อยละ 30 เช่น นมผง ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน เป็นต้น

ส่วนการกำกับดูแลราคาสินค้า กระทรวงได้ดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 และขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาจำหน่ายสินค้า ตั้งแต่เดือน ต.ค.52 ถึง ธ.ค.53 รวมทั้งหารือผู้ประกอบการผลิตและนำเข้าสินค้าเกี่ยวกับสถานการณ์ต้นทุนและราคาสินค้าเป็นระยะ ๆ ทุก 3 เดือน รวมทั้งคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาต้นทุนและราคาสินค้า จำนวน 6 คณะในสินค้าสำคัญ คือ สินค้า (1) นมผงและผลิตภัณฑ์นม (2) ยารักษาโรค (3) ปุ๋ยเคมี (4) น้ำมันพืช (5) เหล็กเส้นและเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ และ (6) อาหารสัตว์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ