สมาคมห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดขายของห้างสรรพสินค้าในเดือนพฤศจิกายน ลดลง 0.5% จากปีก่อน ซึ่งนับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบเป็นรายปี
โดยรายงานของสมาคมฯ ระบุว่า ยอดขายรวมในทุกห้างสรรพสินค้าของญี่ปุ่นมีมูลค่าทั้งสิ้น 5.556 แสนล้านเยน (6.62 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนพฤศจิกายน พร้อมกับชี้ว่าเดือนดังกล่าวมีวันอาทิตย์เพียง 4 วัน ซึ่งน้อยกว่าปีที่แล้วอยู่หนึ่งวัน และถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ยอดขายลดลง
นอกจากนี้ ทางสมาคมกล่าวเสริมว่า สภาพอากาศที่เย็นลงช่วยให้เสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาวขายดีขึ้น แต่อุตสาหกรรมยังไม่ได้รับอานิสงส์จากช่วงก่อนเทศกาลคริสต์มาส เนื่องจากชาวญี่ปุ่นนิยมซื้อสินค้าใกล้ๆ กับวันฉลองคริสต์มาสจริงๆ
ขณะเดียวกัน การที่โครงการ eco-point ของรัฐบาลหมดอายุลงในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ยอดขายของห้างสรรพสินค้าลดลงด้วยเช่นกัน โดยมาตรการดังกล่าวเป็นการให้เงินอุดหนุนสินค้าราคาประหยัดเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อเครื่องใช้ในครัวเรือน ยานพาหนะ และบ้านที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นักวิเคราะห์กล่าวด้วยว่า ยอดขายในห้างสรรพสินค้าในเดือนพ.ย.ยังมีมูลค่าลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการแข็งค่าของเงินเยนทำให้อัตราแลกเปลี่ยนถูกลง ผู้ซื้อจึงหันไปซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ตจากร้านค้าในต่างประเทศ สำนักข่าวซินหัวรายงาน