ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ย 0 - 0.1% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการผ่อนคลายทางการเงินแบบครอบคลุมที่บีโอเจได้ประกาศใช้ตั้งแต่เดือนต.ค.
คณะกรรมการกำหนดนโยบายของบีโอเจประเมินว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังส่งสัญญาณการฟื้นตัวในระดับปานกลาง แต่ก็มีแนวโน้มว่าจังหวะการฟื้นตัวอาจหยุดชะงัก และการที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ต้องขับเคลื่อนด้วยอุตสาหกรรมส่งออก
"ภาคการผลิตของญี่ปุ่นชะลอตัวลงเล็กน้อยในช่วงที่ผ่านมา และความเชื่อมั่นกลุ่มธุรกิจยังคงอ่อนแอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรม และเมื่อมองไปข้างหน้า บีโอเจคาดว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจจะชะลอลง แต่ก็มีแนวโน้มที่จะกลับมาขยายตัวในระดับปานกลางได้" คณะกรรมการบีโอเจกล่าวในแถลงการณ์ภายหลังการประชุม
ส่วนในเรื่องมาตรผ่อนคลายทางการเงินแบบครอบคลุมซึ่งบีโอเจนำมาใช้ตั้งแต่เดือนต.ค.นั้น คณะกรรมการบีโอเจยืนยันว่าจะยังคงเดินหน้าซื้อสินทรัพย์มูลค่า 5 ล้านล้านเยน ซึ่งรวมถึงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้เอกชน อีกทั้งเข้าลงทุนในกองทุนเพื่อการซื้อขายแลกเปลี่ยน และกองทุนทรัสต์เพื่อการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง โดยมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการลงทุนในภาคเอกชน
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบีโอเจได้ตัดสินใจชะลอการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในการประชุมครั้งนี้ เพราะต้องการประเมินผลกระทบทั้งในด้านบวกและผลกระทบข้างเคียงที่เกิดจากการใช้มาตรการดังกล่าว
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การประชุมบีโอเจครั้งสุดท้ายของปี 2553 มีขึ้นหลังจากบีโอเจเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) ประจำไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยระบุว่าดัชนีดัชนีความเชื่อมั่นอยู่ที่ระดับ -5.0 จุด ร่วงจากไตรมาส 3 ที่ระดับ +7.1 จุด ทำสถิติลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ไตรมาส หลังจากอุปสงค์ภายในประเทศชะลอตัวลง