การควบคุมการปล่อยสินเชื่อของจีนมีแนวโน้มจะฉุดยอดการใช้เหล็กภายในประเทศลงในปี 2554 หลังจากที่รัฐบาลเดินหน้าสกัดกั้นการพุ่งทะยานของอัตราเงินเฟ้อและราคาบ้านภายในประเทศ
Steel Business Briefing (SBB) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลข่าวสารชั้นนำแก่อุตสาหกรรมเหล็กโลก รายงานว่า การปล่อยสินเชื่อของธนาคารถือเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่ออุปสงค์เหล็กของจีนในปีหน้า การที่รัฐบาลได้เข้ามาควบคุมการปล่อยสินเชื่อของประเทศมีแนวโน้มว่าจะกดดันการใช้เหล็กของจีนลง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เหล็กทรงยาว เนื่องจากเงินกู้มักถูกนำไปใช้เป็นทุนสำหรับการก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนกำลังพยายามลดยอดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารลง เนื่องจากประเทศกำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นหลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) แตะระดับ 5.1% ในเดือนพฤศจิกายน
ในความพยายามดังกล่าว รัฐบาลจีนยังได้ปรับลดเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อลงเหลือ 15% ในปี 2554 จาก 20% ในปี 2553 รวมทั้งการออกมาตรการควบคุมในระดับมหภาคเพื่อตรวจสอบการปล่อยสินเชื่อให้กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์
SBB ระบุว่า เป้าหมายดังกล่าวบ่งชี้ว่า อัตราการเติบโตของการใช้เหล็กของจีนอาจลดลงเหลือไม่ถึง 10% ในปี 2554
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ต้องกันสำรองเงินฝากเพิ่ม 0.5% ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคมเป็นต้นไป ซึ่งนับเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 6 ในปีนี้ และเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 30 วัน หลังจากเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา ธนาคารกลางได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากอายุ 1 ปี อีกอย่างละ 0.25% ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 3 ปี เพื่อลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจภายในประเทศลง
นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวลือเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งก่อนสิ้นปีนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญของอุตสาหกรรมเหล็กเชื่อว่า ธนาคารกลางอาจจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อในปีนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน