ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ คาดปี 53 จะมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ไม่น้อยกว่า 170,000 หน่วย ขณะที่สถิติการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ในเดือน ต.ค.53 ปรับตัวลดลงทุกประเภทเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าและเดือนเดียวกันของปีก่อน
"เดือนตุลาคมมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยลดลงในทุกประเภท ทั้งห้องชุดคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด และอาคารพาณิชย์ โดยลดลงร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน และลดลงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมปีที่แล้ว" นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลฯ ระบุในเอกสารเผยแพร่
อย่างไรก็ตาม สถิติการโอนกรรมสิทธิ์ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 53(ม.ค.-ต.ค.) กลับขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในรอบครึ่งแรกของปีนี้มียอดการโอนกรรมสิทธิ์สูงมากก่อนหมดมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียม
โดยในเดือน ต.ค.53 มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยประมาณ 10,500 หน่วย ลดลงร้อยละ 17 จากเดือน ก.ย.53 และลดลงร้อยละ 21 จากเดือน ต.ค.52 แบ่งเป็น ห้องชุดคอนโดมิเนียมมากที่สุด จำนวน 3,900 หน่วย(สัดส่วนร้อยละ 37) รองลงมาเป็นทาวน์เฮ้าส์จำนวน 3,400 หน่วย(สัดส่วนร้อยละ 33) บ้านเดี่ยวจำนวน 1,900หน่วย(สัดส่วนร้อยละ 18) อาคารพาณิชย์จำนวน 1,000 หน่วย(สัดส่วนร้อยละ 9) และบ้านแฝดจำนวน 300 หน่วย(สัดส่วนร้อยละ 3)
ขณะที่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั้งหมดในเดือน ต.ค.53 คิดเป็นประมาณ 22,300 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13 จากเดือน ก.ย.53 และลดลงร้อยละ 17 จากเดือน ต.ค.52
ช่วง 10 เดือนแรกของปี 53 มีการโอนกรรมสิทธิ์ซื้อขายที่อยู่อาศัยประมาณ 147,000 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น ห้องชุดคอนโดมิเนียมมากที่สุดประมาณ 59,000 หน่วย(สัดส่วนร้อยละ 40) เพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 35 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รองลงมาเป็นทาวน์เฮ้าส์ประมาณ 44,400 หน่วย(สัดส่วนร้อยละ 30) บ้านเดี่ยวประมาณ 25,900 หน่วย(สัดส่วนร้อยละ 18) อาคารพาณิชย์ประมาณ 13,200 หน่วย(สัดส่วนร้อยละ 9) และบ้านแฝดประมาณ 4,500 หน่วย(สัดส่วนร้อยละ 3)
ขณะที่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยตลอด 10 เดือนแรกรวมกันประมาณ 318,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 จากช่วง 10 เดือนแรกของปี 52
สำหรับพื้นที่ที่มีมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคอนโดมิเนียมใหม่เฉลี่ยต่อรายการสูงที่สุดตลอดช่วง 10 เดือนแรกของปี 53 คือ เขตปทุมวัน มีมูลค่าเฉลี่ยต่อหน่วยอยู่ที่ 11.2 ล้านบาท เขตบางรัก 10.0 ล้านบาท เขตคลองเตย 8.2 ล้านบาท เขตยานนาวา 8.1 ล้านบาท และเขตวัฒนา 5.0 ล้านบาท
พื้นที่ที่มีจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคอนโดมิเนียมใหม่มากที่สุด ได้แก่ เขตพระโขนง เขตบางซื่อ เขตบางกะปิ อำเภอเมืองนนทบุรี และเขตคลองสาน ส่วนพื้นที่ที่มีจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคอนโดมิเนียมมือสองมากที่สุด ได้แก่ เขตบางกะปิ เขตพระโขนง เขตบางซื่อ อำเภอบางใหญ่ นนทบุรี และอำเภอเมืองนนทบุรี
พื้นที่ที่มีจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์บ้านแนวราบใหม่มากที่สุด ได้แก่ อำเภอลำลูกกา ปทุมธานี, อำเภอเมืองสมุทรปราการ, อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอบางใหญ่ นนทบุรี และอำเภอบางพลี สมุทรปราการ ส่วนพื้นที่ที่มีจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์บ้านแนวราบมือสองมากที่สุด ได้แก่ เขตบางกะปิ, อำเภอเมืองสมุทรปราการ, อำเภอบางบัวทอง นนทบุรี, เขตบางขุนเทียน และอำเภอลำลูกกา ปทุมธานี
ทั้งนี้ในปี 52 มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมกันประมาณ 161,400 หน่วย แบ่งเป็น ห้องชุดคอนโดมิเนียมประมาณ 56,300 หน่วย ทาวน์เฮ้าส์ประมาณ 51,900 หน่วย บ้านเดี่ยวประมาณ 33,300 หน่วย อาคารพาณิชย์ประมาณ 15,400 หน่วย และบ้านแฝดประมาณ 4,600 หน่วย