นายประกิต ประทีปะเสน ประธานคณะกรรมการประสานงาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า ในปี 54 สมาคมฯ ยังคงให้ความสำคัญอันดับต้นๆ กับเกษตรกรผู้ปลูกอ้อย ซึ่งจะป้อนผลผลิตให้แก่โรงงานนำไปผลิตเป็นน้ำตาลทรายใช้บริโภคทั้งภายในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศสร้างรายได้เข้าประเทศ โดยแนวทางการส่งเสริมจะเป็นการให้ความรู้ด้านการเพาะปลูกอ้อยที่ถูกวิธี ตั้งแต่กระบวนการเตรียมดิน วิธีการปลูกอ้อย การบำรุงรักษา ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวอ้อยที่ถูกวิธี เพื่อให้ได้ผลผลิตอ้อยที่มีคุณภาพ มีค่าความหวานสูง และมีผลผลิตต่อไร่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยมีรายได้ดีขึ้นด้วย
นายวิบูลย์ ผาณิตวงศ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด กล่าวว่า ในปี 54 นักเศรษฐศาสตร์หลายสำนักคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะที่ไม่ดีนัก เนื่องจากแรงกดดันจากปัญหาสะสมในสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งจะทำให้ปริมาณการบริโภคน้ำตาลไม่ได้เพิ่มมาก
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภาวะอากาศที่แปรปรวน พื้นที่ปลูกอ้อยในหลายประเทศได้รับผลกระทบ ทำให้ผลผลิตน้ำตาลที่จะออกสู่ตลาดโลกไม่ได้มาก ดังนั้นราคาน้ำตาลในตลาดโลกจึงน่าจะทรงตัวในระดับสูง
นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล ประธานคณะทำงานด้านนโยบายและการบริหารอุตสาหกรรม บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด กล่าวว่า จากการร่วมประชุมหารือกันของภาครัฐ โรงงานน้ำตาล และเกษตรกรชาวไร่อ้อย ต่างเห็นว่าควรจะมีการพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบันและอนาคต
ทั้งนี้ ได้มีการตั้งคณะทำงานศึกษาการปรับโครงสร้างระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายขึ้นมาชุดหนึ่ง มีนายประเสริฐ ตปนียางกูร เลขาธิการสำนักงานอ้อยและน้ำตาลทรายเป็นประธาน
"ในส่วนของ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทรายนั้น เรามองว่าหากราคาน้ำตาลที่จำหน่ายในประเทศมีการเคลื่อนไหวขึ้นลงตามกลไกตลาด โดยอิงราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลก จะช่วยแก้ปัญหาหลายๆ เรื่องได้ โดยเฉพาะเรื่องน้ำตาลทรายในประเทศขาดแคลน เนื่องจากการลักลอบนำน้ำตาลในประเทศออกไปขายต่างประเทศ" นายณัฎฐปัญญ์ กล่าว
พร้อมระบุว่า การปรับโครงสร้างราคาน้ำตาลจะช่วยรองรับทิศทางของโลกอนาคตที่มีการเปิดเสรีด้านการค้าและการลงทุนมากขึ้น โดยไทยเองก็เป็นหนึ่งในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งจะต้องพร้อมรองรับการเปิดเสรีทั้งด้านทุน แรงงาน และทรัพยากรการผลิตต่างๆ ในปี 2558
อย่างไรก็ดี แม้จะปล่อยให้ราคาน้ำตาลในประเทศเคลื่อนไหวตามราคาตลาดโลก แต่กลุ่มผู้ประกอบการก็คำนึงถึงผลกระทบต่อชาวไร่อ้อยและผู้บริโภคด้วย จึงเสนอให้มีการกำหนดช่วงราคาต่ำสุดและสูงสุดไว้ โดยราคาต่ำสุดควรจะเป็นราคาที่ไม่ทำให้ชาวไร่อ้อยขาดทุน หากต่ำกว่านั้นกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายจะเข้ามาช่วยเหลือ
ส่วนราคาสูงสุดควรเป็นราคาที่ไม่ทำให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบ หากราคาน้ำตาลในตลาดโลกขึ้นไปสูงกว่านั้น กองทุนฯ ก็จะเข้ามาช่วยเหลือผู้บริโภค โดยนำเงินกองทุนฯ(ที่หักจากราคาจำหน่ายในประเทศ)มาชดเชย
นายชลัช ชินธรรมมิตร์ ประธานคณะทำงานด้านตลาดภายในประเทศ บริษัทไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย มาตรา 23 ได้กำหนดวัตถุประสงค์ของการตั้งกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายไว้ว่า เพื่อรักษาเสถียรภาพของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ผลประโยชน์ของชาวไร่อ้อยและโรงงาน และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ
ดังนั้น หากปล่อยให้ราคาเคลื่อนไหวขึ้นลงตามตลาดโลก โดยมีการกำหนดราคาขั้นสูงและขั้นต่ำ ก็จะมีการมาหารือกันว่าจะต้องหักเงินเพิ่มจากราคาขายในประเทศอีกเท่าใด เพื่อนำเข้ากองทุนฯ ให้เพียงพอกับการนำไปใช้ประโยชน์ในการรักษาเสถียรภาพของอุตสาหกรรม และช่วยเหลือผู้ผลิตและผู้บริโภคในระบบ
นายชลัช กล่าวด้วยว่า ถึงแม้จะมีการเสนอให้ปล่อยราคาเคลื่อนไหวตามตลาดโลกแล้วก็ตาม แต่ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทรายยังเห็นว่าควรกำหนดโควตาน้ำตาลบริโภคภายในประเทศ(โควตา ก.) และการจัดสรรโควตารายสัปดาห์ไว้ เพื่อป้องกันการขาดแคลนน้ำตาลบริโภคในประเทศ