นายซิงห์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่กรุงวอชิงตันว่า จีนกำลังพยายามผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัวในรูปแบบใหม่ด้วยการพึ่งพาอุปสงค์ภายในประเทศให้เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ซึ่งการปรับขึ้นค่าเงินหยวนจะช่วยให้ชาวจีนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น โดยการปฏิรูปเงินหยวนจะช่วยให้อัตราแลกเปลี่ยนของจีนมีความยืดหยุ่น และยังช่วยปรับสมดุลของเศรษฐกิจทั่วโลกให้ลดการพึ่งพาอุตสาหกรรมส่งออก แต่ให้หันมามุ่งเน้นพึ่งพาอุปสงค์ภายในประเทศให้มากขึ้น
ทั้งนี้ นายซิงห์กล่าวว่า ปัจจัยที่ช่วยหนุนเศรษฐกิจเอเชียให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีนี้มาจากการที่ประเทศแถบเอเชียกระตุ้นความต้องการภายในประเทศมากขึ้น และคาดว่าเศรษฐกิจเอเชียจะขยายตัวในอัตราที่สูงอย่างต่อเนื่อง โดยมีจีนและอินเดียเป็นแกนนำที่สำคัญ
"ผมย้ำเสมอว่าจีนและอินเดียจะยังคงเป็นแรงผลักดันสำคัญของการเติบโตในเอเชีย เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวราว 9.5% ในปี 2554" นายซิงห์กล่าว
ส่วนในเรื่องราคาสินทรัพย์ในเมืองใหญ่ที่ปรับตัวสูงขึ้นของจีนนั้น นายซิงห์คาดว่า รัฐบาลจีนอาจจะใช้มาตรการควบคุมราคาสินทรัพย์ภายในระยะเวลา 2-3 ปีนี้ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของจีนไม่ต้องการให้จีนเผชิญกับภาวะฟองสบู่แตกเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับญี่ปุ่นในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 สำนักข่าวเกียวโดรายงาน