กัมพูชาเผยราคายางตลาดโลกพุ่งทำนิวไฮช่วยกระตุ้นเกษตรกรเพิ่มผลผลิตยาง

นายลี พัลลา ผู้อำนวยการสำนักงานอำนวยการอุตสาหกรรมยางแห่งกัมพูชา เปิดเผยว่า ราคายางในตลาดโลกพุ่งขึ้นแตะระดับ 4,800 ดอลลาร์ต่อตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ และสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะทำให้เกษตรกรชาวกัมพูชาเพิ่มปริมาณการเพาะปลูก

"ราคายางคุณภาพดีระดับสูงสุดเมื่อปีที่แล้วมีราคาเพียง 3,200 ดอลลาร์ต่อตัน แต่ในปีนี้ราคายางพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 4,800 ดอลลาร์ต่อตัน ราคาที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเช่นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรชาวกัมพูชาที่เพาะปลูกยาง และอาจจะกระตุ้นให้เกษตรและบริษัทที่ผลิตสินค้าทางการเกษตร ผลิตยางกันมากขึ้น" นายลีกล่าว

อย่างไรก็ตาม นายลีกล่าวว่า เขาไม่ทราบว่าปริมาณยางที่กัมพูชาส่งออกไปขายยังต่างประเทศมีอยู่เท่าใด เนื่องจากรัฐบาลได้แปรพื้นที่เพาะปลูกยางทั้งหมดภายในประเทศให้อยู่ในรูปแบบของการบริหารงานแบบรัฐวิสาหกิจแล้ว โดยปัจจุบันกัมพูชามีพื้นที่เพาะปลูกกล้ายางโดยรวม 168,000 เฮคตาร์ ซึ่งเป็นต้นยางที่ยังไม่ให้ผลผลิต และคาดว่าพื้นที่เพาะปลูกจะเพิ่มขึ้นเป็น 180,00 เฮคตาร์ในปีหน้า

นอกจากนี้ นายลียังกล่าวด้วยว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคายางในตลาดโลกพุ่งขึ้นมาจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง รวมทั้งภาวะอุปทานตึงตัวที่เป็นผลมาจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่พุ่งขึ้น

สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างข้อมูลของกระทรวงเกษตร ประมง และป่าไม้ของกัมพูชาว่า กัมพูชาสามารถผลิตยางแผ่นได้ 37,000 ตันในปี 2552 ซึ่งในจำนวนนี้ได้ส่งออกไปขายยังต่างประเทศในปริมาณ 36,000 ตัน