ผู้ค้าคาดสถานการณ์เอทานอลขาดตลาดจะรุนแรงในช่วง H2/54

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 23, 2010 15:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชลัช ชินธรรมมิตร์ ผู้ช่วยกรรมการผัจัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ และสายงานผลิตและเทคนิค บมจ. น้ำตาลขอนแก่น (KSL) กล่าวว่า ในครึ่งปีหลังของปี 2554 ปริมาณเอทานอลที่จะนำมาผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์จะตึงตัวมาก เนื่องจากราคาขายเอทานอลถูกกดราคาจากผู้ค้าน้ำมัน และ คาดว่าปัญหาเหล่านี้จะเริ่มรุนแรงในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า

ปัจจุบันราคาอ้างอิงที่กระทรวงพลังงานประมาณ อยู่ที่ 27 บาท/ลิตร แต่ผู้ค้าน้ำมันรับซื้อในราคาไม่เกิน 23 บาท/ลิตร ในขณะที่ราคาต้นทุนอยู่ประมาณ 24 บาท/ลิตร ทำโรงงานที่ผลิตเอทานอลขายในราคาขาดทุน จึงไม่ค่อยอยากจะผลิตเอทานอลออกมาขาย ซึ่งหากราคายังไม่ดีเช่นนี้ก็อาจจะเดินเครื่องผลิตเพียง 50% ของกำลังการผลิตทั้งหมดเพื่อให้คุ้มทุน และอาจจะขายเป็นโมลาสแทนสำหรับโรงเอทานอลที่ใช้โมลาสเป็นวัตถุดิบ ส่วนโรงที่ใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบ ก็อาจจะขายเป็นมันสดแทนที่จะมาผลิตเอทานอล

ดังนั้น ทำให้ปริมาณเอทานอลที่ออกสู่ตลาดจะมีปริมาณไม่มากนัก ซึ่งผู้ค้าน้ำมันอาจจะมีปัญหาในการจัดหาเอทานอลเพื่อมาทำน้ำมันแก๊สโซฮอล์

"หากรัฐบาลต้องการแก้ปัญหาเรื่องนี้ จะต้องกระตุ้นยอดการใช้เอทานอลให้เพิ่มขึ้น เพื่อให้ปริมาณที่เพิ่มขึ้นมาถั่วเฉลี่ยกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น และผู้ค้าน้ำมันจะต้องรับซื้อเอทานอลในราคาประมาณ 24-25 บาท/ลิตร จึงจะทำให้ผู้ผลิตเอทานอลอยู่ได้"นายชลัช กล่าว

ส่วนในช่วงปลายปีนี้และต้นปีหน้ามองว่ายังไม่กระทบมาก เพราะยังมีสต็อกเอทานอลอยู่ เนื่องจากช่วงเดือนธ.ค.ไปจนถึงสิ้นเดือนมี.ค.ของทุกปี จะเป็นช่วงของการหีบอ้อยจะเป็นช่วงที่มีโมลาสออกจากโรงงานน้ำตาลมาก ทำให้มีโมลาสมาผลิตเอทานอล

ด้านนายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี ประธานสมาคมเอทานอลไทย กล่าวว่า สต็อกเอทานอลในปัจจุบันของผู้ผลิตเอทานอลอยู่ที่ประมาณ 27 ล้านลิตร ซึ่งถือว่าตึงตัวแล้ว โดยหากไม่มีการผลิตเอทานอลเพิ่มก็อาจจะแล้วใช้สต๊อกอย่างเดียวก็จะใช้ได้ประมาณ 1 เดือน เนื่องจากมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมผลผลิตอ้อย และมันสำปะหลังในบางพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถนำผลผลิตออกมาได้

รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ปริมาณเอทานอลในสต๊อกส่วนของบริษัทผู้ค้าน้ำมันคงเหลือ ณ วันที่ 13 ธ.ค. ประกอบไปด้วย บมจ.ปตท.(PTT) 7.488 ล้านลิตร, บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย 6.825 ล้านลิตร, บมจ.เอสโซ่ (ESSO) 1.431 ล้านลิตร, บริษัท เชฟรอน (ไทย) 2.586 ล้านลิตร, บมจ. บางจากปิโตรเลียม (BCP) 6.001 ล้านลิตร, บมจ.ไทยออยล์ (TOP) 0.433 ล้านลิตร, บมจ. ไออาร์พีซี (IRPC) 1.312 ล้านลิตร และ บริษัท ปิโตรนาส รีเทล (ประเทศไทย) 0.169 ล้านลิตร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ