นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการเดินทางเยือนบังกลาเทศ อินเดีย และศรีลังกา ระหว่างวันที่ 19-23 ธ.ค.ที่ผ่านมาเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการส่งเสริมความร่วมมือด้านต่างๆ ระหว่างไทยกับเอเชียใต้ โดยได้พบกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชนของทั้ง 3 ประเทศ เพื่อสร้างโอกาสให้นักธุรกิจไทยขยายการค้าและการลงทุนสู่เอเชียใต้
พร้อมกันนี้ ยังได้ผลักดันการเจรจาการค้าเสรีในกลุ่ม BIMSTEC (บังกลาเทศ, อินเดีย, พม่า, ศรีลังกา, ไทย, เนปาล และภูฏาณ) ให้บรรลุผลสำเร็จภายในปี 54 หลังจากที่เริ่มการเจรจามาตั้งแต่ปี 47
"ได้ขอความสนับสนุนจากทั้ง 3 ประเทศ ในการเข้าร่วมประชุม BIMSTEC Business Forum และ BIMSTEC Economic Forum ที่ไทยมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ในเดือนก.พ.ปีหน้า ซึ่งเป็นการประชุมระหว่างภาครัฐและเอกชนของกลุ่มบิมส์เทค เพื่อหาแนวทางการขยายการค้าการลงทุนร่วมกัน" นายอลงกรณ์กล่าว
นอกจากนี้ ได้ขอให้ทั้ง 3 ประเทศร่วมมือผลักดันการพัฒนาโลจิสติกส์ภายในภูมิภาค ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้สินค้าถึงจุดหมายปลายทางอย่างสะดวก รวดเร็ว ทำให้การค้าขยายตัว โดยการเชื่อมโยงทางบก ได้เสนอให้ร่วมมือกันเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมทางบกระหว่าง อินเดีย-พม่า-ไทย ระยะทาง 1,360 กิโลเมตร
ส่วนทางน้ำ ได้เสนอให้มีความร่วมมือเพื่อการพัฒนา การขนส่งทางน้ำสู่อ่าวเบงกอล ซึ่งจะทำให้ไทยมีเส้นทางขนส่งสินค้า และสามารถกระจายสินค้าจากไทยไปสู่ตลาดใหม่ที่มีประชากรกว่า 1,500 ล้านคน โดยเสนอให้พัฒนาโลจิสติกส์ภายในเส้นทางวงแหวนระหว่าง ระนอง—ทวาย—ย่างกุ้ง—เจ้าเพียว—จิตตะกอง—กัลกัตตา—เชนไน—โคลัมโบ—อาเจะห์—ปีนัง รวมทั้งพัฒนาเส้นทางบินตรงระหว่างเมืองสำคัญต่างๆ ด้วย
นายอลงกรณ์ กล่าวถึงการหารือในการขยายการค้าและการลงทุนในส่วนของบังคลาเทศว่า ได้ตั้งเป้าหมายขยายการค้าร่วมกันเพิ่มเป็น 1,000 ล้านดอลลาร์ในปี 54 และจะรื้อฟื้นการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมทางการค้า(JTC)ที่ว่างเว้นมา 21 ปี ขณะเดียวกัน บังคลาเทศยังได้เชิญชวนให้บริษัทก่อสร้างไทยมาลงทุน และร่วมโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมกับแจ้งว่าบริษัท อิตัลไทย ของไทยได้ชนะการประมูลสร้างทางด่วนยกระดับในกรุงธาการะยะทาง 26 กิโลเมตรด้วย
ส่วนการหารือกับอินเดีย ได้ขอให้ช่วยสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการเข้าไปลงทุนของนักธุรกิจไทยในสาขาการก่อสร้าง พร้อมขอให้มีความร่วมมือในการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมทางบกไทย-พม่า-อินเดีย ผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย และการเปิดเที่ยวบินตรงกรุงเทพฯ-กูวาฮาตี สำหรับการหารือกับภาคเอกชนอินเดียในสาขาก่อสร้าง มีความเห็นตรงกันว่ามีโอกาสที่เอกชนทั้ง 2 ประเทศจะร่วมมือกันพัฒนาการก่อสร้างในอินเดีย โดยเฉพาะการสร้างถนน สะพาน ทางด่วนและที่อยู่อาศัย
ขณะที่การหารือกับศรีลังกา ได้ตั้งเป้าหมายขยายการค้าเพิ่มมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์ในปี 54 และการจัดให้มีการประชุมร่วมกันในการขยายการค้าและการลงทุน รวมถึงการแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า ในส่วนการหารือกับภาคเอกชนได้เห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือกันในสาขาใหม่ๆ เช่น อุตสาหกรรมก่อสร้าง, ยานยนต์และชิ้นส่วน, อัญมณีและเครื่องประดับ, ประมง, อาหารแปรรูป, ชา, พลังงาน, เครื่องจักรกลการเกษตร, ยางพารา ซึ่งไทยสามารถใช้ศรีลังกาเป็นฐานการผลิตเพื่อป้อนตลาดในภูมิภาคเอเชียใต้ได้