นายวิกรม ศรีประทักษ์ รองประธานกรรมการบริหาร บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC) กล่าวในการเสวนา"2554 ปีทองเศรษฐกิจไทย"ว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทยในปีหน้าจะเติบโตต่อเนื่อง 3-5% ภายใต้คาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ 4-5% จากในปีนี้ที่มูลค่ารวมของค่าบริการรวมค่าอุปกรณ์ด้านโทรคมนาคมอยู่ที่ 2 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นค่าบริการของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือหลัก 3 ราย ราว 1.68 แสนล้านบาท ส่วนที่เหลือประมาณกว่า 3 หมื่นล้านบาทเป็นค่าอุปกรณ์(Device)
แรงขับเคลื่อนสำคัญของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในปีหน้า คือ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เริ่มติดการใช้บริการด้าน Data เหมือนในอดีตที่ติดการใช้บริการ voice, การเติบโตของ smart phone ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมาก และ การพัฒนา application มารองรับการใช้งานด้าน data ที่มีการเติบโตขึ้นมาก
รวมทั้งปัจจัยที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่หากทำสำเร็จจะเป็นแรงผลักดันให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด คือ การมี Local service provider ของประเทศ ซึ่งเป็นการวางโครงข่ายหลักสำหรับบริการด้านโทรคมนาคมที่ขณะนี้มีหลายหน่วยงานกำลังพิจารณาการเป็นผู้สร้างโครงข่ายทั้งการไฟฟ้าทั้ง 3 หน่วยงาน รวมถึง บมจ.ทีโอที และบมจ. กสท โทรคมนาคม
"ถ้าสำเร็จผู้ประกอบการจะมี Business Model ใหม่ ต้องผลักดันให้เกิด" นายวิกรม กล่าว
นายวิกรม กล่าวว่า เทคโนโลยีด้านโทรคมนาคมในปัจจุบันเอื้อต่อการสื่อสารข้อมูล ผู้ประกอบการพยายามหาเทคโนโลยีต่างๆ ทั้งบรอดแบนด์ ไฮสปีด ไวไฟ ไวแม็กซ์ มาให้บริการซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ส่งเสริมการใช้บริการด้านข้อมูลเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะยังไม่มีการออกใบอนุญาต 3G ในขณะนี้แต่เทคโนโลยีทั้งหลายสามารถรองรับบริการมานานแล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลกำลังอยู่ในขั้นตอนการจัดตั้งคณะกรรมการ กสทช. หลังจากที่กฎหมายใหม่กำหนดว่าจะต้องมีการสรรหาคณะกรรมการทั้ง 11 คนภายใน 180 วัน แต่ก็ยังต้องมีกิจกรรมที่จะต้องทำอีกมาก ดังนั้นขณะนี้ยังไม่กล้าคาดหวังว่าภายในปี 54 จะสามารถออกใบอนุญาต 3G ได้
แต่ภาคเอกชนผู้ให้บริการก็ไม่จำเป็นต้องถอย เพราะการเปิดประมูลใบอนุญาตดังกล่าวเป็นการขอใช้คลื่นความถี่ใหม่ที่ 2.1 GHz แต่การพัฒนาเทคโนโลยีสามารถทำได้ ซึ่งขณะนี้ได้มีการทดลองการให้บริการบนคลื่นความถี่เดิมอยู่แล้ว
"เรากำลังหลงประเด็นประมูล 3G เป็นการขอใช้คลื่นความถี่ใหม่ เทคโนโลยีมันมีมานานแล้ว แต่อาจจะมีทศกัณฑ์บ้าง" นายวิกรม กล่าว