ในขณะเดียวกัน อุปทานผักในประเทศยังต่ำกว่าความต้องการ ณ ขณะนี้ และกระทรวงฯ จะดำเนินการเพิ่มปริมาณผักในสต๊อกสำรองเพื่อให้มีผักหมุนเวียนในตลาดมากขึ้น
นอกจากนี้ นายหวังกล่าวเสริมว่า กระทรวงพาณิชย์จะให้ความสำคัญต่อการรับประกันว่ามีอุปทานเพียงพอเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาในปีหน้า
-- กระทรวงพาณิชย์ของจีน เปิดเผยว่า ราคาค้าปลีกน้ำตาลของจีนปรับตัวสูงขึ้น 1% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (13-19 ธ.ค.) โดยรัฐบาลจีนได้ขายน้ำตาลจากสต๊อกสำรองของรัฐบาลจำนวน 610,000 ในช่วงฤดูกาลหีบอ้อยปี 2553/54 เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาในตลาด
ทั้งนี้ ช่วงนี้ถือเป็นช่วงของการทำตลาดน้ำตาลงวดใหม่ โดยคาดว่า ปริมาณของอุปทานที่เพิ่มขึ้น จะทำให้ราคาน้ำตาลภายในประเทศลดลง
-- คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน เปิดเผยว่า ตลาดฝ้ายของจีนเริ่มลดความร้อนแรงลงตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เนื่องจากประสิทธิภาพในการใช้มาตรการของรัฐบาลเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาจากการเก็งกำไร โดยทั้งราคาสปอตและราคาสัญญาฝ้ายล่วงหน้าต่างก็ปรับตัวลดลง
โดยวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ราคารับซื้อฝ้ายดิบในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์มีราคาเฉลี่ยที่ 2.99 หยวน/กก. ลดลง 27.6% จากราคารับซื้อเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ในขณะที่ราคาฝ้ายปั่นในมณฑลดังกล่าวลดลง 13.7% แตะ 26,695 หยวน/ตัน ณ วันสิ้นเดือน
ทั้งนี้ สัญญาฝ้ายส่งมอบเดือนมกราคมปี 2554 บนกระดานซื้อขายอิเล็กทรอนิกมีราคาเฉลี่ยที่ 28,631 หยวน/ตัน ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน ลดลง 15.3% จากราคาสูงสุด ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน
-- ศูนย์การค้าธัญพืชและน้ำมันแห่งชาติของจีน รายงานว่า จีนได้ขายข้าวจำนวน 6.1% จากสต๊อกสำรอง 1.96 ล้านตันของรัฐบาลในการเปิดประมูลขายประจำสัปดาห์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (23 ธ.ค.) โดยมีราคาขายเฉลี่ยของข้าวต้นฤดูอยู่ที่ 1,962 หยวน/ตัน ในขณะที่ข้าวกลางฤดูและข้าวปลายฤดูมีราคาขายเฉลี่ย 1,943 หยวน/ตัน
ทั้งนี้ อัตราการขายได้ลดลงจากยอด 8.89% ในการเปิดประมูลขายก่อนหน้านี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน