ธ.ก.ส.เล็งขยายฐานสินเชื่อใหม่กลุ่มอาชีพอิสระ รองรับแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 24, 2010 16:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.เตรียมแผนขยายฐานการให้บริการสินเชื่อใหม่ ๆ เพื่อสร้างโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการทางการเงินในระบบและช่วยลดปัญหาการกู้หนี้นอกระบบตามนโยบายรัฐบาล เพื่อช่วยสร้างงานสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับทุกกลุ่มอาชีพทั้งในเมืองและชนบท ตัวอย่างเช่น มอเตอร์ไซด์รับจ้าง คนขับแท็กซี่

ทั้งนี้ จะสนับสนุนให้คนในกลุ่มอาชีพดังกล่าวมีการรวมตัวในรูปของวิสาหกิจชุมชนหรือในรูปของสหกรณ์ มีการอบรมให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการควบคู่กับการสร้างภูมิคุ้มกันตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ก่อนจะให้สินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยพิเศษผ่านไปยังกลุ่ม และกลุ่มนำไปกระจายต่อยังสมาชิก เช่น ธ.ก.ส. คิดดอกเบี้ยจากกลุ่มร้อยละ 4.75 ต่อปี กลุ่มนำไปปล่อยกู้ต่อไม่เกินร้อยละ 12 ต่อปี ในลักษณะต้นลดดอกเบี้ยลด ส่วนต่างดอกเบี้ยที่เหลือทางกลุ่มสามารถนำไปสร้างแรงจูงใจ เช่น ชำระหนี้ตรงเวลาจะคืนดอกเบี้ยให้ 1% หรือจัดทำประกันชีวิต ให้ฟรีในช่วงที่กู้ยืม

นอกจากนี้ ยังสามารถนำมาจัดทำเป็นสวัสดิการที่เป็นประโยชน์ต่อสมาชิกภายในกลุ่ม เช่น ทุนการศึกษา การรักษาพยาบาล เป็นต้น แนวทางดังกล่าวเป็นการสนับสนุนให้คนในกลุ่มอาชีพอิสระมีการดูแลซึ่งกันและกัน ทำให้โครงสร้างทางสังคมและการประกอบอาชีพอิสระมีความเข็มแข็งเพิ่มมากขึ้น

และในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ธ.ก.ส.ได้ออกบัตรสินเชื่อเงินด่วนให้กับลูกค้าที่มีประวัติการชำระหนี้ดีติดต่อกัน 2 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินในวงเงินรายละ 50,000 บาท พร้อมกับเปิดให้บริการสินเชื่อสำหรับนำไปเป็นทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% ใน 3 เดือนแรก เดือนที่ 4 ถึงปีที่ 3 คิดในอัตรา MRR-2 หรือ 4.75% ต่อปี ปีที่ 4—5 คิดอัตรา MRR-1 หรือ 5.75% ต่อปี และปีที่ 6 ขึ้นไปดอกเบี้ย MRR หรือ 6.75% ต่อปี

นอกจากนี้ ยังจะมอบกรมธรรม์ประกันชีวิตฟรีให้กับลูกค้าชั้นดีดังกล่าวจำนวนกว่า 2,900,000 ราย ตามวงเงินที่กู้แต่ไม่เกินรายละ 100,000 บาท

สำหรับผลการดำเนินงานของ ธ.ก.ส. ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ( เมษายน-ธันวาคม 2553) มียอดสินเชื่อคงเหลือจำนวน 550,191 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากต้นปี (31 มีนาคม 2553) จำนวน 45,307 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 8.97% เป็นสินเชื่อการเกษตรเพื่อเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจหลัก พืชพลังงานทดแทนและปศุสัตว์ เป็นต้น จำนวน 366,293 ล้านบาท สินเชื่อสนับสนุนการสร้างงานในชนบท จำนวน 117,671 ล้านบาท สินเชื่อเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน จำนวน 35,116 ล้านบาท สินเชื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาล จำนวน 3,180 ล้านบาท และสินเชื่ออื่น ๆ เช่น สินเชื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ ธนาคารชุมชน เป็นต้นอีกจำนวน 27,931 ล้านบาท

ทั้งนี้ ธ.ก.ส. มีลูกหนี้รอการชดใช้จากรัฐบาลอีก 141,945 ล้านบาท ดังนั้น ธ.ก.ส.ได้อำนวยสินเชื่อสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากรวมทั้งสิ้น 692,136 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากต้นปี 56,786 ล้านบาท ด้านเงินฝากมีจำนวน 677,426 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากต้นปี 34,927 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.1% จำนวนหนี้ที่ไม่ก่อเกิดรายได้อยู่ในอัตรา 10.73% โดยมีกำไรสุทธิ 4,670 ล้านบาท จำนวนสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 839,009 ล้านบาท

ในเดือน ธ.ค.ทาง ธ.ก.ส.ขยายฐานสินเชื่อไปยังกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ กลุ่มลูกค้าที่เป็นองค์กรด้านสถาบันและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายด้านการผลิต การตลาดให้กับเกษตรกรอย่างครบวงจร โดยอนุมัติสินเชื่อในกลุ่มนี้ไปถึง 3,416 ล้านบาท เช่น สินเชื่อเพื่อนำไปจัดซื้อและ รวบรวมผลผลิตของชุมนุมสวนปาล์มกระบี่ สินเชื่อเพื่อจัดซื้อเครื่องจักรและเงินทุนหมุนเวียนในการรวบรวมผลผลิตของบริษัท ผลไม้กระป๋องประจวบ จำกัด สินเชื่อเพื่อนำไปรวบรวมผลผลิตให้กับสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ