ธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.25% มุ่งควบคุมแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ

ธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และดอกเบี้ยเงินฝากอีก 0.25% มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

สำนักข่าวซินหัวรายงานอ้างแถลงการณ์ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของธนาคารกลางจีนเมื่อวานนี้ว่า ธนาคารกลางจีนจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคมนี้ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปีอยู่ที่ระดับ 5.81% และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปีอยู่ที่ 2.75%

การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีนครั้งล่าสุดถือเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่สองในปีนี้ หลังจากที่ธนาคารได้ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก 0.25% ไปเมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี

หู เสี่ยวเหลียน รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวว่า จีนจะควบคุมปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบให้กลับมาอยู่ในระดับปกติภายใต้กรอบที่รัฐบาลกำหนดไว้ ในขณะที่รัฐบาลเริ่มปรับนโยบายการเงินจากแบบผ่อนคลายไปเป็นการใช้นโยบายการเงินแบบระมัดระวังมากขึ้น เพื่อควบคุมแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น และเพื่อสกัดกั้นภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์

โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 28 เดือนที่ระดับ 5.1% ในเดือนพ.ย. ขณะที่ยอดปล่อยเงินกู้ล็อตใหม่พุ่งแตะ 7.45 ล้านล้านหยวนในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ตลอดทั้งปีที่ 7.5 ล้านล้านหยวน

ด้านลี เต๋ากุย เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางจีนกล่าวว่า การขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้มีเป้าหมายหลักอยู่ที่การรับมือกับกระแสคาดการณ์ด้านเงินเฟ้อ และเป็นการส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางจีนจะเริ่มปรับเปลี่ยนการใช้นโยบายการเงิน ซึ่งการควบคุมปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบนั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมเงินเฟ้อ

ลีเสริมว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่หลายประเทศกำลังเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสเช่นนี้นั้นถือเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสม เพราะจะช่วยให้ตลาดโลกไม่เผชิญกับความผันผวนมากเกินไป อีกทั้งยังช่วยหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดกระแสเงินเก็งกำไรไหลเข้าตลาดอีกด้วย

ทั้งนี้ นอกเหนือจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ในปีนี้ธนาคารกลางจีนได้ปรับเพิ่มสัดส่วนสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ไปแล้ว 6 ครั้งมาอยู่ที่ระดับ 18.5% และ 19% สำหรับธนาคารพาณิชย์รายใหญ่บางแห่ง