กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) ของจีนเตรียมทบทวนนโยบายภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ เหล็กโลหะ และซีเมนต์ในปี 2554
ลี หยีจง รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเปิดเผยว่า ผลผลิตมูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรมของจีนในปีนี้อาจขยายตัวเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบเป็นรายปี และทางการตั้งเป้ากระตุ้นผลผลิตมูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรมให้เติบโตที่ระดับ 11% ในปีหน้า
-- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของจีนเป็นครั้งที่สองในปีนี้อาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการซื้อขายตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ในช่วงที่ตลาดเปิดทำการซื้อขายในวันจันทร์
โดยธนาคารกลางจีนตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคมเป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นการขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สองในรอบกว่า 2 เดือน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกมองว่าเป็นหนึ่งในมาตรการของรัฐบาลในการบรรเทาแรงกดดันด้านเงินเฟ้อภายในประเทศที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 28 เดือนที่ระดับ 5.1% ในเดือนพ.ย.
ด้านแหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้อาจสร้างผลกระทบต่อตลาดมากกว่าเมื่อครั้งที่จีนขึ้นดอกเบี้ยในเดือนต.ค. และอาจทำให้ตลาดปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนลบในวันจันทร์นี้ เนื่องจากธนาคารกลางจีนปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อย และภาพรวมของอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ต่ำกว่าอัตราการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
-- คณะกรรมาธิการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) เปิดเผยว่า จีนมียอดรวมผลผลิตโลหะปลอดเหล็ก 10 รายการอยู่ที่ 2.69 ล้านตันในเดือนพ.ย. ซึ่งปรับตัวลดลง 1.9% จากปีก่อนหน้านี้
โดยผลผลิต electrolytic aluminum ในเดือนพ.ย.ลดลง 14.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี สวนทางกับผลผลิตทองแดงที่ขยายตัว 4.5%
ขณะเดียวกัน ผลผลิตตะกั่วและสังกะสีในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 29.5% และ 6.6% ตามลำดับจากปีก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ NDRC เสริมว่า ราคาโลหะปลอดเหล็กในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม เช่นเดียวกับยอดนำเข้าทองแดงและอลูมิเนียมในช่วงเวลาดังกล่าวที่กระเตื้องขึ้นด้วยเช่นกัน
-- กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) เปิดเผยว่า ราคาเหล็กและโลหะของจีนขยับขึ้นเล็กน้อยในเดือนพ.ย. แต่ราคาสินแร่เหล็กปรับตัวลดลง
โดยทางกระทรวงฯ ได้เผยแพร่รายงานความเคลื่อนไหวภาคอุตสาหกรรมของจีนประจำเดือนพ.ย. ซึ่งระบุว่า ยอดนำเข้าสินแร่เหล็กของจีนกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ราคาผงสินแร่ปรับตัวลดลงในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ดัชนีราคาผลิตภัณฑ์โลหะในเดือนพ.ย.อยู่ที่ระดับ 124.51 จุด ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.19 จุดจากระดับในเดือนต.ค.
-- บริษัท Baotou Iron and Steel (Group) Company (Baogang Group) ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองยักษ์ใหญ่ในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ทางตอนเหนือของจีนจะสามารถพลิกฟื้นกำมาทำกำไรได้ในปีนี้ หลังจากที่ประสบภาวะขาดทุนในปี 2552 และคาดว่ายอดขายของบริษัทในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเกือบ 20% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งบริษัทฯ เผยว่าอาจทำยอดขายได้สูงกว่า 4.5 หมื่นล้านหยวนในปี 2553