นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT) คาดว่า ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศสัปดาห์นี้คงจะไม่ปรับขึ้น ส่วนปี 54 คาดว่าราคาน้ำมันจะเฉลี่ยจะขึ้นไปสูงกว่านี้ จากปีนี้ที่ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 78 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งคาดว่าปีหน้าราคาจะอยู่ที่ 85-90 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกอาจจะต้องมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน
ส่วนกรณีราคาก๊าซ LPG นั้น หากรัฐบาลยังคงปล่อยให้การค้าและการจำหน่ายอยู่ในระดับปัจจุบัน คาดว่าปีหน้าจะต้องนำเข้า LPG เพิ่มขึ้นถึง 2 ล้านตัน จากปีนี้ที่มีปริมาณการนำเข้า 1.524 ล้านตัน ซึ่งในปีนี้นำเข้าก๊าซ LPG เพิ่มขึ้นจากปี 52 ถึง 102.4% และต้องใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาชดเชยการนำเข้ากว่า 20,000 ล้านบาท
ดังนั้น หากรัฐบาลปรับโครงสร้างราคา ทาง ปตท.ในฐานะผู้รับมอบนโยบายก็พร้อมปฎิบัติตาม แต่หากรัฐบาลไม่มีการปรับราคา LPG ก็น่าเป็นห่วง เพราะจะเกิดผลกระทบระยะยาวที่จะมีการบิดเบือนโครงสร้างและทำให้เกิดผลกระทบต่างๆ มากขึ้น
ขณะที่ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน มองว่า ปีหน้าการนำเข้าก๊าซ LPG จะลดลงกว่าปีนี้ 92% หรือคิดเป็นการนำเข้าประมาณ 123,000 ตัน หากมีการลอยตัวราคาหน้าโรงกลั่นน้ำมันจากปัจจุบันกำหนดราคาเพดานไว้ที่ 330 ดอลลาร์/ตัน ซึ่งจุดนี้จะเป็นส่วนจูงใจให้ผู้ผลิตในประเทศนำก๊าซ LPG เข้าสู่ตลาดอีก 50,000 ตัน/เดือน และเป็นประโยชน์ต่อประเทศในการลดการนำเข้า และลดการนำเงินกองทุนน้ำมันฯ มาอุดหนุนค่าขนส่งนำเข้าประมาณ 50 ดอลลาร์/ตัน
เมื่อโรงกลั่นมีรายได้เพิ่มขึ้น รัฐบาลจะมีรายได้จากการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งจะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)วันที่ 30 ธ.ค.53
รมว.พลังงาน กล่าวด้วยว่า การส่งเสริมให้แท็กซี่เปลี่ยนจากการใช้ก๊าซ LPG มาเป็น NGV 30,000 คัน คาดว่าจะช่วยลดการใช้ก๊าซ LPG ได้ 30,000 ตัน/เดือน และกรณีโรงแยกก๊าซธรรมชาติโรงที่ 6 สามารถเดินเครื่องได้เต็มที่จะมี LPG เพิ่มขึ้นในตลาด 30,000 ตัน/เดือน