นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะรองประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ กำหนดไว้ 4 แนวทาง คือ ส่งเสริมการพัฒนาผู้ประกอบการในธุรกิจทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับบรอดแบนด์ ทั้งผู้ประกอบการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ผลิตโปรแกรมประยุกต์ ผู้ผลิตเนื้อหา ผู้ประกอบกิจการกระจายเสียง ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
พัฒนายกระดับบุคลากรผู้เชี่ยวชาญความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศและโครงข่ายทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ , กำหนดมาตรการป้องกันผลกระทบเชิงลบและภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้บริการบรอดแบนด์อย่างแพร่หลาย โดยการสร้างความเข้าใจแก่ทุกภาคส่วนเกี่ยวกับประโยชน์และผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งดำเนินมาตรการอย่างจริงจังในการป้องกันอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล และการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
และ สร้างความตระหนักและให้ความรู้แก่ผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญๆ ของประเทศเกี่ยวกับนโยบายและแนวทางปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ
ในการดำเนินงานตามแนวทางทั้ง 4 นั้น คณะกรรมการฯ ได้กำหนดภารกิจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกำลังจะจัดตั้งขึ้น คือ สำนักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สธอ.)และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)(สพธ.)นำไปปฏิบัติ
สธอ.มีภารกิจในการจัดทำนโยบายสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากบรอดแบนด์ในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ การติดตามประเมินผลการใช้ประโยชน์จากบรอดแบนด์ในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนการจัดทำคุณสมบัติผู้เชี่ยวชาญ และระบบขึ้นทะเบียนผู้ตรวจสอบอิสระด้านความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ จัดทำมาตรการป้องกันผลกระทบเชิงลบและภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
รวมทั้งให้ความรู้แก่ผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ (CIO)ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวกับแนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศในเชิงบริหาร รวมถึงการติดตามและประเมินผล
อนึ่ง คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 พ.ย. มีมติเห็นชอบนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติตามที่กระทรวงฯ เสนอ ซึ่งในนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติได้มีการวางเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ คือ การเพิ่มสัดส่วนมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ต่อ GDP ขึ้นเป็นร้อยละ 10 ภายในปี 2558