กคพ.สั่งเกาะติด 3 คดีเศรษฐกิจใหญ่เอาผิดอดีตผู้บริหาร KTAM-PICNI-SECC

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 29, 2010 17:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.)ซึ่งมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นประธาน รับทราบผลการดำเนินงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เกี่ยวกับความคืบหน้าคดีทางเศรษฐกิจที่สำคัญ

ทั้งนี้ ดีเอสไอได้รับพิจารณากรณีนายศรีภพ สารสาส อดีตผู้บริหาร บลจ.กรุงไทย(KTAM) ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ไว้เป็นคดีพิเศษตามคำร้องทุกข์ของ KTAM แล้ว โดยมีข้อสงสัยว่าอาจจะมีการทุจริตในกรณีที่ KTAM ลงทุนในตั๋วแลกเงิน บมจ.ปิคนิคคอร์ปอเรชั่น(PICNI) เป็นเงินจำนวนกว่า 1,100 ล้าน เมื่อปี 47

นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ PICNI และนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน อดีตผู้บริหารฯ กับพวก ฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์สินของบริษัทฯ หรือไซฟ่อนเงินของบริษัทฯ โดยการปลอมตั๋วเงิน ทำสัญญาซื้อขายแก๊สและถังบรรจุแก๊สโดยทุจริต มูลค่าความเสียหายประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งคดีดังกล่าวได้แจ้งข้อหาให้ผู้ต้องหาทราบแล้ว และได้ปล่อยตัวไปในชั้นสอบสวน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาเพิ่มเติม และสรุปสำนวนการสอบสวน

และคดีกล่าวหานายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ อดีตผู้บริหาร บมจ.เอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส(SECC)กับพวก ได้ร่วมกันวางแผนยักยอกเงินของบริษัทฯ โดยใช้วิธีการให้กู้ยืมเงินกับบุคคลภายนอกจำนวน 245 ล้านบาท เบิกถอนเงินสดให้บริษัทย่อย 30 ล้านบาท และจัดทำเอกสารอันเป็นเท็จกรณีสั่งซื้อสินค้ารถยนต์ที่ไม่มีอยู่จริง โดยขณะนี้ได้ออกหมายจับนายสมพงษ์ และผู้ร่วมกระทำผิดบางส่วนแล้ว ซึ่งทราบว่าหลบหนีไปต่างประเทศ คดีอยู่ระหว่างสรุปสำนวนการสอบสวน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ