หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ รายงานว่า จำนวนธนาคารพาณิชย์สหรัฐที่ล้มละลายในปี 2553 มีอยู่ทั้งสิ้น 157 แห่ง เพิ่มขึ้นจากระดับ 140 แห่งในปี 2552 และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2535
ข้อมูลของบรรษัทประกันเงินฝากแห่งสหรัฐ (FDIC) ระบุว่า จำนวนธนาคารที่มีสถานะทางการเงินที่อ่อนแอในช่วงเวลาที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย.มีอยู่ทั้งสิ้น 860 แห่ง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2536 และจากสถิติของ FDIC พบว่า จำนวนธนาคารที่อยู่ในบัญชีรายชื่อถูกจับตาของ FDIC ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะล้มละลายนั้น มีสัดส่วนสูงถึง 1 ใน 5
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า จำนวนธนาคารล้มละลายในปี 2553 จะเป็นตัวเลขที่สูงสุดแล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจค่อยๆฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอย และแม้ว่าจำนวนธนาคารที่ล้มละลายจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ตัวเลขโดยเฉลี่ยยังอยู่ต่ำกว่าปี 2552 นอกจากนี้ ยอดรวมทรัพย์สินของธนาคารที่ล้มละลายในปีนี้มีอยู่เพียง 9.21 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าในปีที่แล้วที่มีอยู่สูงถึง 1.697 แสนล้านดอลลาร์
รายงานระบุว่า ในบรรดาธนาคารที่ล้มละลายในสหรัฐนั้น มีอยู่กว่าครึ่งหนึ่งที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ฟลอริด้า จอร์เจีย และอิลลินอยส์ และการผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ที่ส่งผลให้ธนาคารต้องประสบภาวะล้มละลายนั้น ส่วนใหญ่เป็นเงินกู้เพื่อการพาณิชย์