สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนธ.ค.ขยายตัวที่ระดับ 57 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 56.6 จุด และทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 17 ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัว
-- สมาพันธ์โลจิสติกและการจัดซื้อแห่งชาติของจีน (CFLP) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนในเดือนธ.ค.ขยายตัวที่ระดับ 56.5 จุด เพิ่มขึ้น 3.3 จุดจากเดือนพ.ย.
-- กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐเพิ่มขึ้นเล็กในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากกิจกรรมการก่อสร้างได้ขยายตัวทั้งในโครงการที่อยู่อาศัยและโครงการของรัฐบาล
-- หวาง เฉิน หัวหน้าสำนักงานข้อมูลครม.จีน เปิดเผยว่า จำนวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต หรือพลเมืองเน็ต ชาวจีนในช่วงสิ้นเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 20.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 450 ล้านราย โดยประชากรชาวจีนที่ใช้บริการออนไลน์นั้นคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 33.9% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าระดับเฉลี่ยของโลกที่ 30%
-- ออสเตรเลียน อินดัสทรี กรุ๊ป และไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส เปิดเผยผลสำรวจกิจกรรมในภาคการผลิตของออสเตรเลียว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนธ.ค.หดตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 46.3 จุด จากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 47.6 จุด ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 หลังจากต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นได้ส่งผลให้ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคลดน้อยลง และหนุนสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
-- ข้อมูลเบื้องต้นของรัฐบาลเกาหลีใต้ชี้ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2553 คาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นรวดเร็วเกินคาด
-- สภาทรัพยากรควีนส์แลนด์ (QRC) เปิดเผยว่า เหตุน้ำท่วมที่บริเวณรัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลียส่งผลกระทบต่อการผลิตของอุตสาหกรรมถ่านหินของรัฐมูลค่าถึง 1 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 1.01 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
-- กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์เปิดเผยว่า ภาคการผลิตที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยหนุนให้เศรษฐกิจประเทศเติบโตในไตรมาส 4 ของปี 2553
-- สถาบัน American Bankruptcy Institute (ABI) เผยจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอล้มละลายในปี 2553 อยู่ที่ระดับ 1.53 ล้านราย เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับปี 2552 แต่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในระดับ 1.6 ล้านราย
-- เว็บไซต์ Bisnis.com รายงานโดยอ้างคำพูดของนายอากัส มาร์โทวาร์โดโจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอินโดนีเซียว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของอินโดนีเซียอยู่ที่ระดับ 0.62% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2553 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ระดับ 2.1% และคาดว่าจะลดลงเหลือ 1.8% ในปีนี้