ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบสกุลเงินหลักๆ หลังสหรัฐเผยยอดสั่งซื้อโรงงานเพิ่มขึ้น

ข่าวต่างประเทศ Wednesday January 5, 2011 07:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์หลังจากสหรัฐเปิดเผยรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าของโรงงานอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด รวมทั้งรายงานการประชุมของธนาคารสหรัฐ (เฟด) ที่ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.35% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.000 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 81.710 เยน และพุ่งขึ้น 1.55% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9483 ฟรังค์ จากระดับ 0.9338 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.40% แตะที่ 1.3297 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3351 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินปอนด์ร่วงลง 0.68% แตะที่ 1.5585 ปอนด์ จากระดับ 1.5480 ปอนด์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 1.10% แตะที่ 1.0050 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.0162 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลง 0.80% แตะที่ 0.7664 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7726 ดอลลาร์สหรัฐ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน และสกุลเงินหลักๆ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ของโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐประจำเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% แตะระดับ 4.238 แสนล้านดอลลาร์ เพราะได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าที่มีอายุการใช้งานต่ำกว่า 3 ปี ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐยังคงขยายตัวแข็งแกร่ง

นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้นหลังจากรายงานการประชุมของเฟดระบุว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลเต็มวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ค่าเงินยูโรได้รับอิทธิพลจากรายงานของสำนักงานแรงงานกลางเยอรมนีที่ระบุว่า จำนวนคนว่างงานที่ปรับตามฤดูกาล (seasonally adjusted) เพิ่มขึ้น 3,000 คนจากเดือนพฤศจิกายน มาอยู่ที่ 3.15 ล้านคนในเดือนธันวาคม 2553 สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะลดลง ขณะที่อัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 7.5% ซึ่งมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นที่สุดในรอบกว่า 40 ปีได้ทำให้หลายบริษัทลดจำนวนพนักงาน

ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโรปรับตัวขึ้นสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ และเหนือกว่าระดับเป้าหมาย 2% ที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กำหนดไว้เป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองปี ซึ่งเป็นผลมาจากราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทะยานขึ้น

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีภาคบริการและดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจเดือนธ.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ