นายอาทร สินสวัสดิ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เปิดเผยว่า ในปี 2554 อัตราการใช้ไฟฟ้าในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ จะเติบโต 3.11% บนสมมติฐานว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 3.5-4.5% แต่ลดลงจากปี 2553 ที่อัตราการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 7% เพราะคาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะชะลอตัวลงจากปี 2553 ที่เติบโตถึง 9%
โดยบ้านที่อยู่อาศัยจะมีการเติบโต 2.4% กลุ่มธุรกิจและอุตสาหกรรม ซึ่งมีสัดส่วนการใช้ไฟฟ้ากว่า 70% จะมีอัตราการเติบโต 3.3% และราชการ มีอัตราการเติบโต 0.4% โดยธุรกิจมีการเติบโตสูง คือ สำนักงานให้เช่า และระบบขนส่ง แอร์พอร์ต ลิงค์ ที่มีการใช้เต็มรูปแบบในปีนี้ ขณะที่ธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรม การใช้ไฟฟ้า น่าจะชะลอตัวลง แม้การท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น
ส่วนอุตสาหกรรมที่ยังมีการเติบโต เช่น กลุ่มอาหารแปรรูป เครื่องจักรอุปกรณ์ และยานยนต์
สำหรับความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) ปีนี้ คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 8,319 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้น 243 เมกะวัตต์ หรือ เพิ่มขึ้น 3.01% จากปี 2553 ที่ พีค อยู่ที่ 8,076 เมกะวัตต์
นายอาทร กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลมีแผนที่จะให้การใช้ไฟฟ้าฟรีเป็นการถาวรตามแผนประชาวิวัฒน์ว่า นโยบายใช้ไฟฟ้าฟรี 90 หน่วย ไม่อยู่ในแผนการปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้า และยืนยันไม่ได้เป็นการผลักภาระไปให้ผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ เนื่องจากเป็นการนำเงินภาษีเข้ามาอุดหนุนในส่วนนี้อยู่แล้ว ส่วนสภาพคล่องของ กฟน. แม้จะเข้าไปอุดหนุนค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน ตามมาตรการลดค่าครองชีพ แต่ยังมีสภาพคล่องเพียงพอต่อการดำเนินงานโดยรัฐบาลจะทยอยจ่ายเงินที่ กฟน. ชดเชยค่าไฟฟ้าคืน ในปี 2555 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ กฟน.เตรียมเสนอกระทรวงการคลัง เพื่อขอปรับแผนการจัดตั้ง เพื่อเป็นผู้ดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้า ณ จุดใช้งาน จากแผนเดิมที่จะต้องมีการตั้งโฮลดิ้งก่อนแล้วจึงตั้งบริษัทลูก แต่แผนใหม่จะไม่มีการจัดตั้งโฮลดิ้ง คาดว่ากระทรวงการคลังจะอนุมัติให้ดำเนินการได้ โดยขณะนี้มีบริษัทเอกชนสนใจเข้าร่วมเป็นผู้ผลิตไฟฟ้า ณ จุดใช้งาน แล้ว 5 ราย รวมทั้งยังมีการทำธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น บำรุงรักษาระบบไฟฟ้า คมนาคม และระบบไอทีต่างๆ