นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า EU ได้ออก กฎหมาย EC Customs Security Legislation Regulation 648/2005 และ Regulation 1875/2006 เกี่ยวกับการ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในการขนส่งสินค้า โดยให้มีการระบุสินค้าที่มีความเสี่ยงอันตรายสูงให้เร็วที่สุดก่อนนำเข้า EU โดย การพิจารณาผู้ประกอบการที่มีความน่าเชื่อถือสูงในด้านความปลอดภัย และกำหนดให้แจ้งข้อมูลล่วงหน้าก่อนนำเข้า ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2553 EU ได้เผยแพร่แนวทางการปฏิบัติตามระเบียบและข้อกำหนดดังกล่าว ซึ่งจะมีผลให้เริ่มปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 เป็นต้นไป สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1.ผู้ขนส่งสินค้าหรือตัวแทนผู้มีอำนาจ (Authorized Representative) หรือหน่วยงานที่อยู่นอก EU (Third Party) ซึ่งได้รับมอบอำนาจ เช่น สายการเดินเรือ ฯลฯ ต้องกรอกข้อมูลทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า Entry Summary Declaration (ENS) 1 ก่อนสินค้ามาถึงด่านนำเข้า EU จากนั้น ENS จะถูกส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ ท่าเรือหรือสนาม บิน ณ จุดที่สินค้าเข้าเป็นที่แรกใน EU โดยไม่คำนึงว่าสินค้าดังกล่าวจะถูกปล่อยออกที่จุดนี้หรือไม่ก็ตาม เพื่อให้สำนักงานศุลกากร ประเทศนั้นวิเคราะห์ความเสี่ยง (Security and safety risk) ซึ่งหากตรวจพบความเสี่ยง ก็จะดำเนินการส่งต่อข้อมูลความ เสี่ยงนั้นผ่านระบบ Import Control System (ICS) ไปยังสำนักงานศุลกากรของท่าเรือหรือสนามบินของ EU ทุกแห่งที่ระบุใน ENS สำหรับการขนส่งในตู้บรรจุสินค้าทางทะเลลึก (deep sea containerized traffic) จะส่งข้อความ “ Do Not Load” ถึงผู้ส่ง เพื่อสินค้าจะไม่ต้องถูกบรรทุกลงเรือเข้ามายังเขตแดนของ EU หากข้อมูลความเสี่ยงได้รับภายหลังจากที่เรือออกมา แล้ว จะมีการดำเนินการควบคุมทันที ณ ด่านแรกของ EU
2.ระยะเวลาการแจ้งล่วงหน้าของสินค้าที่ขนส่งเข้ามาใน EU (ที่ระบุในเอกสาร ENS) ขึ้นอยู่กับวิธีการขนส่งและ ระยะเวลาการขนส่งสินค้าในเขตแดนของ EU ดังนี้
รูปแบบการขนส่งทางเรือ ระยะเวลาการแจ้งล่วงหน้า ทางเรือ (containerized maritime cargo) 24 ชั่วโมงก่อนขนส่ง ทางเรือ (short sea containers) 2 ชั่วโมงก่อนสินค้าเดินทางมาถึง ณ จุดแรกใน EU ทางเรือ (break bulk) 4 ชั่วโมงก่อนสินค้าเดินทางมาถึง ณ จุดแรกใน EU ทางเครื่องบิน (ระยะเวลาบินเกิน 4 ชั่วโมง) 4 ชั่วโมงก่อนสินค้าเดินทางมาถึง ณ จุดแรกใน EU ทางเครื่องบิน (ระยะเวลาบินน้อยกว่า 4 ชั่วโมง) ก่อนเครื่องบินออกเดินทาง ทางรถไฟ หรือทางน้ำ (ภายใน EU) 2 ชั่วโมงก่อนสินค้าเดินทางมาถึง ณ จุดแรก ทางถนน 1 ชั่วโมงก่อนสินค้าเดินทางมาถึง ณ จุดแรก
รองอธิบดีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งสำคัญที่สุดของการแจ้งข้อมูลล่วงหน้าของสินค้าที่จะขนส่งเข้ามาใน EU คือ หมาย เลข EORI (Economic Operators Registration and Identification System) เพื่อใช้อ้างอิงในการนำเข้าและส่ง ออกสินค้ากับศุลกากรของ EU ทั้งนี้ ในแต่ละปีปริมาณการค้าระหว่างไทยกับ EU เฉลี่ย (2550-2552) มูลค่า 1,148,256 ล้าน บาทต่อปี เป็นการส่งออกมูลค่า 712,161 ล้านบาท นำเข้า 436,095 ล้านบาท เฉพาะปี 2553 (ม.ค.-พ.ย.) มีปริมาณการค้า รวม 1,042,325 ล้านบาท โดยเป็นการนำเข้า 410,388 ล้านบาท และส่งออก 631,937 ล้านบาท ดังนั้น เพื่อให้การส่งออก สินค้าไป EU ได้รับความสะดวก ผู้ประกอบการไทยจึงควรศึกษาแนวปฏิบัติในการขนส่งสินค้าตามระเบียบใหม่ของ EU