นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ พร้อมด้วย ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)ได้หารือร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กรณีการเช่าที่บริเวณตลาดนัดจตุจักร ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ได้ให้สิทธิ์ กทม.เช่าเป็นระยะเวลา 25 ปี และจะสิ้นสุดสัญญาเช่าในวันที่ 1 ม.ค.55 โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ รฟท.และ กทม.ไปหารือร่วมกันถึงแนวทางการดำเนินงานต่อไปว่าจะบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรอย่างไร
"การจะต่อสัญญาเช่าที่ตลาดนัดจตุจักรหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาร่วมกันของทั้งสองฝ่ายที่ต้องตกลงร่วมกัน เนื่องจากการเช่าที่ดินดังกล่าวอยู่บนเงื่อนไขการดำเนินงานตามมติครม.ในอดีตที่ต้องการช่วยเหลือผู้ค้าขายที่สนามหลวงให้มีที่ทำกิน" นายโสภณ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นโยบายกระทรวงคมนาคมต้องการให้การดำเนินงานใดๆนั้น สมประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย และแม้ว่า รฟท.จะมีแนวคิดในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรเอง เพื่อเพิ่มรายได้จากการบริหารทรัพย์สินและแก้ปัญหาขาดทุนสะสม แต่หาก กทม.มีข้อเสนอที่ดีก็สามารถดำเนินการร่วมกัน โดยที่ รฟท.สร้างรายได้เพิ่มจากการบริหารได้ด้วย
แหล่งข่าวจาก รฟท.กล่าวว่า กทม.ยังไม่ได้ยื่นข้อเสนอการต่อสัญญาเช่าที่ดินตลาดนัดจตุจักรมาให้รฟท.พิจารณา แต่หลักการแล้วรฟท.ต้องการผลประโยชน์ตอบแทนจากที่ดินดังกล่าวปีละประมาณ 1,600 ล้านบาท ซึ่งหากกทม.รับเงื่อนไขนี้ได้ รฟท.ก็ยินดีที่จะให้กทม.เป็นผู้บริหารสัญญาต่อไป ส่วนมติครม.ที่ต้องการช่วยเหลือผู้ค้าสนามหลวงให้มีที่ทำกินนั้น เห็นว่าการช่วยเหลือดังกล่าวผ่านมาเกือบ 30 ปีแล้ว จึงไม่น่าจะใช้เป็นประเด็นหลักในการเจรจาต่อสัญญาครั้งนี้
"ต้องยอมรับว่าผลประโยชน์ที่ รฟท.ได้รับจากการเช่าที่ดินตลาดนัดจตุจักรน้อยมาก ขณะที่การจ่ายเงินของ กทม.ยังมีปัญหาล่าช้า ซึ่งเมื่อวันที่ 2 พ.ย.53 ได้ชำระเงินค่าเช่าและเงินค้างจ่ายเป็นเงินกว่า 80 ล้านบาทให้กับ รฟท.ทำให้ รฟท.อยากจะบริหารเอง เพราะต้องการรายได้ที่เพิ่มขึ้น"แหล่งข่าว กล่าว