ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.) ขานรับการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐประจำเดือนธันวาคม 2553 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่เงินยูโรยังเผชิญแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.71% แตะที่ 1.2909 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3001 ดอลลาร์สหรัฐ และอ่อนตัวลง 1.08% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 107.18 เยน จากระดับ 108.35 เยน
ด้านเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.10% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9664 ฟรังค์ จากระดับ 0.9654 ฟรังค์ แต่อ่อนค่าลง 0.40% เมื่อเทียบกับเงินเยนมาอยู่ที่ 83.010 เยน จากระดับ 83.340 เยน
ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 0.21% แตะที่ 0.9961ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.9940 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.59% แตะที่ 0.7612 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7567 ดอลลาร์สหรัฐ
เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินยูโรเพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในเร็วๆ นี้ หลังจากมีรายงานตัวเลขจ้างงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวลดลง
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) ประจำเดือนธันวาคม 2553 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 103,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานปรับตัวลดลงสู่ระดับ 9.4% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในปี 2553 ที่อัตราว่างงานรายเดือนร่วงลงมาอยู่ต่ำกว่า 9.5%
ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมด้านสันทนาการและบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 47,000 ตำแหน่ง ส่วนภาคอุตสาหกรรมด้านการดูแลสุขภาพมีอัตราการจ้างงานเพิ่มขึ้น 36,000 ตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขจ้างงานในอุตสาหกรรมการบริการภาคธุรกิจขยายตัวต่อเนื่อง 16,000 ตำแหน่ง และภาคอุตสาหกรรมค้าปลีกมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 12,000 ตำแหน่ง ด้านภาคการผลิตเพิ่มการจ้างงาน 10,000 ตำแหน่ง สวนทางกับการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ลดลง 16,000 ตำแหน่ง