ข้อมูลของกรมศุลกากรจีนแสดงในวันนี้ว่า ยอดเกินดุลการค้าในเดือนธ.ค.ปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 1.308 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดือนพ.ย.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.29 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนยอดเกินดุลการค้าตลอดปี 2553 อยู่ที่ 1.831 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 6.4% จากปี 2552
รายงานของกรมศุลกากรจีนระบุว่า ยอดการส่งออกในปี 2553 เพิ่มขึ้น 31.3% แตะระดับ 1.5779 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งนำหน้าเยอรมนีและก้าวขึ้นเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่สุดของโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ส่วนยอดการส่งออกในเดือนธ.ค.ขยายตัว 17.9% จากปีที่แล้ว ลดลงจากเดือนพ.ย.ที่ขยายตัวแข็งแกร่งถึง 34.9% ขณะที่ยอดการนำเข้าในเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 25.6% ลดลงจากเดือนพ.ย.ที่พุ่งขึ้น 37.7%
ขณะที่ยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 38.7% โดยยอดการนำเข้าสินค้าจากภูมิภาคเอเชียในปี 2553 มีอยู่ทั้งสิ้น 1.394.8 แสนล้านดอลลาร์ พุ่งขึ้น 38.7% จากปี 2552
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า จีนมีแนวโน้มที่จะแซงหน้าเยอรมนีและทำให้จีนเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
จีนก้าวเข้ามาแทนที่เยอรมนีในฐานะผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลกเป็นครั้งแรกในปี 2009 และจากข้อมูลที่มีการเปิดเผยเท่าที่ผ่านมาระบุว่า ยอดการส่งออกสินค้าจากเยอรมนีในช่วงเดือนม.ค.-พ.ย.ปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 19.3% จากปีก่อนหน้านั้น ซึ่งต่ำกว่าการขยายตัวเมื่อเทียบเป็นรายปีของจีน