นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศในฐานะหน่วยงานประสานหลักของฝ่ายไทยในคณะทำงานสาขาการค้าและการลงทุน ภายใต้กรอบความร่วมมือการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle: IMT-GT) ได้จัดทำแหล่งข้อมูลการค้า การนำเข้า การส่งออก เป็นรายสินค้า ของผู้ประกอบธุรกิจไทย ระดับจังหวัดในพื้นที่ IMT-GT เพื่ออำนวยความสะดวกในการพิจารณาทำการค้าและการลงทุน รวมทั้งส่งเสริมขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ดังกล่าวให้ขยายตัวมากขึ้น
ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลล่าสุดถึงปีปัจจุบัน ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการในพื้นที่ 14 จังหวัด สามารถมองเห็นทิศทาง และชนิดของสินค้าไทยที่ประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซียมีความต้องการนำเข้า/ใช้เป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็จะได้รับรู้ถึงชนิดของสินค้าอินโดนีเซียและมาเลเซียที่มีการนำเข้ามาใช้มากเช่นกัน ดังนั้น ผู้ประกอบการก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลดังกล่าว ในการปรับปรุงพัฒนาศักยภาพทางการผลิตและการค้าของตนให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดได้มากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การขยายการค้าระหว่างประเทศในที่สุด
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจ ใน 6 สาขา ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานและการขนส่ง การค้าและการลงทุน การท่องเที่ยว การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การเกษตร อุตสาหกรรมเกษตรและสิ่งแวดล้อม และผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาล
พื้นที่บางส่วนของทั้งสามประเทศซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกันและใกล้เคียงกัน ประกอบด้วย 10 จังหวัดของอินโดนีเซีย ได้แก่ (อาเจะห์ เขตปกครองตนเอง) บังกาเบลิตุง เบงกูลู จัมบี ลัมปุง สุมาตราเหนือ เรียว เกาะเรียว สุมาตราใต้ สุมาตราตะวันตก, 8 รัฐของมาเลเซีย ได้แก่ รัฐเกดะห์ กลันตัน มะละกา เนกรีเซมบิลัน ปีนัง เประ ปะลิส และสลังงอร์ และ 14 จังหวัดภาคใต้ของไทย คือ สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล ตรัง พัทลุง นครศรีธรรมราช ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง ภูเก็ต พังงา และกระบี่ ได้ดำเนินงานภายใต้โครงการรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลทางเศรษฐกิจและธุรกิจ ECONOMIC AND BUSINESS INFORMATION COMPILATION โดยได้จัดทำแหล่งข้อมูลการค้า การนำเข้า การส่งออก เป็นรายสินค้า ของผู้ประกอบธุรกิจไทย ระดับจังหวัดในพื้นที่ IMT-GT เพื่ออำนวยความสะดวกในการพิจารณาทำการค้าและการลงทุน รวมทั้งส่งเสริมขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ดังกล่าวให้ขยายตัวมากขึ้น