ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: แรงซื้อหนุนยูโรแข็งเทียบดอลล์ แต่ตลาดยังวิตกปัญหาหนี้ยุโรป

ข่าวต่างประเทศ Tuesday January 11, 2011 07:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินยูโรเพื่อเก็งกำไร หลังจากยูโรร่วงลงอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป และความเป็นไปได้ที่ว่าโปรตุเกสจะขอรับความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป (อียู) ยังคงเป็นปัจจัยกดดันสกุลเงินยูโรตลอดทั้งวัน

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.26% แตะที่ 1.2950 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.2916 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.12% แตะที่ 1.5574 ปอนด์ จากระดับ 1.5556 ปอนด์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.37% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 82.710 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 83.020 เยน แต่ดีดตัวขึ้น 0.04% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9671 ฟรังค์ จากระดับ 0.9667 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับลง 0.05% แตะที่ 0.9959 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.9964 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.42% แตะที่ 0.7637 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7605 ดอลลาร์

สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการแสดงความคิดเห็นของนักวิเคราะห์หลายคนในตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กว่า นักลงทุนกลับเข้าซื้อสกุลเงินยูโรเพื่อเก็งกำไร เพราะมองว่ายูโรได้ถูกเทขายมากเกินไปในช่วงที่ผ่านมา โดยค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวเกือบต่ำกว่าระดับเฉลี่ยรอบ 200 วันที่ระดับ 1.3075 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร

อย่างไรก็ตาม กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป และข่าวที่ว่าฝรั่งเศสและเยอรมนีพยายามกดดันโปรตุเกสให้ยอมรับความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ยังคงสร้างแรงกดดันให้กับสกุลเงินยูโร

นิตยสารแด สปีเกล ของเยอรมนีรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลเยอรมนีและรัฐบาลฝรั่งเศสได้แสดงความวิตกกังวลว่า โปรตุเกสอาจประสบความยากลำบากในการเข้าถึงตลาดทุน พร้อมกับเรียกร้องให้โปรตุเกสหาทางป้องกันตนเองภายใต้แผนความช่วยเหลือครั้งใหม่ของอียูโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

นักลงทุนจับตาดูการประมูลขายพันธบัตรของรัฐบาลโปรตุเกสในวันที่ 12 ม.ค. และการประมูลขายพันธบัตรของรัฐบาลสเปนในวันที่ 13 ม.ค.นี้ หลังจากมีรายงานว่า ต้นทุนการรับประกันการผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรยุโรปได้ปรับตัวขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ โดยการออกพันธบัตรของรัฐบาลสเปนในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของปี 2554 หลังจากเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลสเปนได้นำพันธบัตรอายุ 10 ปี และ 15 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรล็อตสุดท้ายสำหรับปี 2553 ออกประมูลขาย ซึ่งสามารถระดมทุนให้ได้ถึง 3 พันล้านยูโร (4 พันล้านดอลลาร์)

ยูโรสแตท ซึ่งเป็นสำนักงานด้านสถิติของสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยว่า อัตราว่างงานใน 17 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร (ยูโรโซน) ประจำเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10.1% ส่วนอัตราว่างงานใน 27 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ยังคงยืนอยู่ที่ระดับ 9.6% ทำสถิติทรงตัวที่ระดับดังกล่าวติดต่อกันนานถึง 10 เดือน

คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีการจ้างงานเดือนธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% จากเดือนพ.ย. แตะระดับ 99.3 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนพ.ย. รายงานงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนธ.ค. ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ย. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ