นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้กระทรวงพาณิชย์ได้รายงานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีถึงการดูแลปัญหาการขาดแคลนน้ำมันปาล์ม โดยคาดว่าสถานการณ์น่าจะคลี่คลายได้ตั้งแต่เดือนมี.ค.54 เป็นต้นไป หลังจากที่เริ่มทยอยนำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ 30,000 ตัน ตามมติคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
"พาณิชย์รายงานตัวเลข และรายงานว่ามี.ค.สถานการณ์น่าจะคลี่คลาย เพราะมีการเปิดให้นำเข้า...ผมกำชับว่าอย่าให้การขึ้นราคานี้ไปกระทบเป็นลูกโซ่ไปสู่สินค้าอื่น ให้ติดตามใกล้ชิด" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางกระทรวงพาณิชย์ได้มีการรายงานการนำเข้าปาล์มน้ำมัน จำนวน 30,000 ตัน เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนปาล์มน้ำมันในประเทศ โดยคาดว่า ในช่วงเดือน ก.พ. - มี.ค. จะมีผลผลิตจากการเพาะปลูกของเกษตรกรออกมา ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการลดภาวะการขาดแคลนได้ ขณะที่ในส่วนของการขอปรับขึ้นราคาน้ำมันปาล์มของผู้ประกอบการก่อนหน้านี้ เป็นการสะท้อนต้นทุนที่ใกล้เคียงกับข้อเท็จจริง เพราะถึงแม้ว่า จะปรับมาอยู่ในราคา 47 บาท ผู้ประกอบการก็ยังขาดทุนอยู่
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์ม ในระยะสั้น และระยะยาวต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งในส่วนของแนวทางระยะสั้น ได้มีการดูแลการปรับราคาของน้ำมันปาล์มให้สะท้อนข้อเท็จจริง โดยราคาที่ออกมานั้นจะส่งผลให้ปาล์มน้ำมันไม่ขาดตลาด
สำหรับ แนวทางการแก้ไขระยะยาวได้เสนอให้มีการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือประชาชน ซึ่งมีแนวความคิดที่มากจากกองทุน 3 แนวทาง ประกอบด้วย 1. ให้มีการปรับงบประมาณจากงบประจำ มาเป็นเงินของกองทุน 1 พันล้านบาท 2.อาจจะมีการนำเงินมาจากการจัดเก็บภาษี สุรา และบุหรี่ ซึ่งมีการจัดเก็บอยู่ปีละ 1.7 แสนล้านบาท 3.อาจจะมีการนำเงินมาจากคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) โดยข้อศึกษาทั้งหมดจะนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป