นายวัชระ กรรณิกา รองโฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับมาตรการภาษีสำหรับเงินบริจาคเข้ากองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งขึ้น เพื่อสนับสนุนและจูงใจให้ภาคเอกชนมีการบริจาคเงินให้แก่กองทุนฯ
โดยผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มีการบริจาคเงินเข้ากองทุนฯ สามารถนำไปหักเป็นค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีได้สองเท่า แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษา ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้พึงประเมินหลังจาก หักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่นๆ แล้ว
สำหรับนิติบุคคลมีสิทธินำรายจ่ายดังกล่าวมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้สองเท่า แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาและรายจ่ายในการจัดสร้างและการบำรุงรักษาสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะหรือสนามกีฬาของทางราชการหรือเอกชนที่เปิดให้ประชาชนใช้เป็นการทั่วไปโดยไม่เก็บค่าบริการใดๆแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา
ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า มาตรการภาษีสำหรับเงินบริจาคเข้ากองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ที่กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งขึ้นจะช่วยส่งเสริมให้มีการพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่เหมาะสมกับการเป็นวิชาชีพชั้นสูง
ส่วนนายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้บริจาคเงินเข้ากองทุนสามารถนำเงินบริจาคมาหักเป็นค่าใช้จ่ายลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่เกิดขึ้นในปี 2554 ที่จะต้องมีการยื่นแบบภายในเดือนมีนาคม 2555 เป็นต้นไป