นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า การดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-สะพานใหม่นั้น กระทรวงคมนาคมได้นำเรื่องที่เสนอให้ครม.พิจารณาคัดเลือกผู้รับผิดชอบการบริหารจัดการเดินรถกลับมาหารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องหาข้อสรุปร่วมกันก่อน
ประกอบกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นว่า การพิจารณาผู้รับผิดชอบงานบริหารจัดการเดินรถนั้น ไม่ว่ากทม.หรือ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)จะเป็นผู้รับผิดชอบ ไม่ติดขัดด้านกฎหมาย แต่ปัญหาคือทั้งสองหน่วยงานยึดมติครม.กันคนละฉบับ
ทั้งนี้ กทม.อ้างสิทธิความเป็นเจ้าของโครงการตามมติ ครม.วันที่ 7 ก.ย.47 ในขณะที่รฟม.ยึดมติครม.วันที่ 7 พ.ย.49 ที่รัฐบาลลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการออกแบบ ซึ่งจะต้องมีการดำเนินงานตามมาตรา 6 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานและดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535
"ผมได้เสนอในที่ประชุม ครม.ว่าควรจะให้หน่วยงานเดียวเป็นผู้รับผิดชอบบริหารจัดการเดินรถในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินงาน โดยจะให้รฟม.และกทม.หารือร่วมกันให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว หากการเจรจาไม่สามารถหาข้อยุติได้ ก็น่าจะให้รฟม.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อรับผิดชอบงานด้านรถไฟฟ้าทั้งหมด เป็นผู้บริหารเดินรถด้วย" นายโสภณ กล่าว
วันเดียวกัน นายโสภณ ได้ไปตรวจความคืบหน้าการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ บริเวณสะพานพระนั่งเกล้า โดยพบว่าโครงการรวมมีความคืบหน้า 20% เร็วกว่าแผน 2% คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการบางส่วนภายในปี 2557
นายโสภณ กล่าวว่า ในวันนี้ ครม.มีมติอนุมัติให้ รฟม.โอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณของโครงการศึกษาและออกแบบรายละเอียดโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าสายวงแหวนรอบในตามแนวถนนรัชดาภิเษกจำนวน 400 ล้านบาท มาใช้เป็นค่าจ้างที่ปรึกษาในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 36 กม.วงเงิน 34 ล้านบาท ค่าจ้างที่ปรึกษาในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ระยะทาง 37.5 กม.วงเงิน 210 ล้านบาท และค่าจ้างที่ปรึกษาในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 19.8 กม.วงเงิน 140 ล้านบาท