"กรณ์"คาดพ.ร.บ.กองทุนการออมฯมีผล เม.ย. -พ.ค.54 เริ่มเก็บเงินสมทบปี55

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 12, 2011 13:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการวันนนี้ ซึ่งมีทีมงานทั้งนักวิชาการ ส.ส. และตัวแทนประชาชน เห็นพ้องที่จะเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.กอช.กลับเช้าสู่การพิจารณาสภาผู้แทนราษฎรในวาระ 2 และ 3 เพื่อนำไปสู่การจัดตั้ง กอช. ซึ่งคาดว่าจะมีการประสานงานไปยังวิปรัฐบาลเพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ราวกลางเดือนมี.ค. 54

และคาดว่า ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ในเดือน เม.ย.- พ.ต.54 หลังจากนั้นจะจัดตั้งกองทุนได้ทันที และในอีก 1 ปีจะสามารถให้สมาชิกส่งเงินสมทบเข้ากองทุนได้

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมกรรมาธิการ ฯได้มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ทั้งจาก 3 ฉบับ ที่มาจากรัฐบาล พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ได้เห็นพ้องกันให้มีการแก้ไขใน 4 ประเด็น เพื่อปรับให้กองทุนมีความครบถ้วนและมีสิทธิประโยชน์ให้ประชาชนเพิ่มเติม

ประกอบด้วย การเปิดโอกาสเยาวชนในวัยทำงานสร้างโอกาสในการออมมากชึ้น จึงได้ปรับลดอายุชั้นต่ำของสมาชิกที่จะส่งเงินสมทบกองทุน จาก 20 ปี เป็น 15 ปี, เปิดโอกาสให้ผู้ใช้แรงงานอิสระ ที่เป็นสมาชิกกองทุนประกันสังคมในมาตรา 40 ซึ่งเดิมไม่มีสิทธิรับเงินทดแทนกรณีชราภาพ แต่ได้แก้ไขพ.ร.บ.เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือก ในการรับสิทธิการคุ้มครองโดยสามารถสมัครเป็นสมาชิก กอช. ได้ ,

เปิดโอกาสให้สมาชิกออมเงินผ่าน กอช.ได้ต่อเนื่อง กรณีที่สมาชิกเปลี่ยนงานและเข้าสู่ระบบประกันสังคม โดยไม่จำเป็นต้องลาออกจาก กอช. เพียงแต่รัฐบาลจะไม่ส่งเงินสมทบเพิ่มให้ ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นการออมเพิ่มเติม และ ขยายอายุผู้มีสิทธิสมัครสมาชิก กอช.ทีมีอายุมากกว่า 60 ปี สามารถสมัครเป็นสมาชิกได้อีก 10 ปี โดยรัฐบาลจะส่งเงินสมทบให้เป็นเวลา 10 ปี

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีประชากรนอกระบบ ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปจำนวน 5.2 ล้านคน และผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีจำนวน 4.4 ล้านคน ขณะที่คาดว่า หากมีผู้ใช้สิทธิตามเกณฑ์ที่กำหนด จะมีจำนวนทั้งหมดประมาณ 26 ล้านคน คาดว่ารัฐบาลจะต้องมีภาระงบประมาณในการส่งเงินสมทบปีละ 3 หมื่นล้านบาท แต่เบื้องต้น คาดว่าจะมีผู้สมัครเป็นสมาชิก กอช. อย่างน้อย 20% ซึ่งจะมีภาระส่งเงินสมทบปีละ 6 พันล้านบาท

สาระสำคัญ ร่าง พ.ร.บ.กอช.จะเป็นหน่ายงานของรัฐ มีฐานะเป็นนิติบุคคล ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ มีการบริหารจัดการโดยคณะกรรมการกองทุน และมอบหมายให้บริษัทจัดการกองทุนร่วมบริหาร การจ่ายเงินเช้ากองทุนมาจากสองฝ่าย โดยสามาชิกส่งเงินเข้ากองทุนไม่ต่ำกว่า 50 บาท/เดือน แต่ไม่เกิน 1,100 บาท/เดือน โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินสมทบให้สมาชิกตามระดับอายุ และเป็นอัตราส่วนตามจำนวนเงินที่ส่งเข้ากองทุน

เบื้องต้นสมาชิกอายุไม่เกิน 30 ปี ส่งเงินสมทบ 50% เข้าเงินกองทุน แต่ไม่เกิน 600 บาท/ปี อายุสมาชิกมากกว่า 30 ปีแต่ไม่เกิน 50 ปี และส่งเงินสมทบ 80% ของเงินสะสม แต่ไม่เกิน 960 บาท/ปี และอายุสมาชิกมากกว่า 50 ปี และส่งเงินสมทบ 100% แต่ไม่เกิน 1,200 บาท/ปี โดยรัฐบาลรับประกันผลตอบแทนเทียบเท่าเงินฝากประจำ 12 เดือนเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ไทญ่ 5 แห่ง รวมทั้งธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ