ราคาเหล็กในประเทศจีนมีแนวโน้มที่จะอยู่ในช่วงขาขึ้นต่อไปในไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่หลายรายเตรียมที่จะขึ้นราคาสินค้า ตามรอยบริษัทเป่าสตีลที่ได้ประกาศขึ้นราคาเหล็ก 2 เดือนติดต่อกัน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บริษัท เป่าสตีล ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของจีน ประกาศเมื่อวานนี้ว่า บริษัทจะขึ้นราคาผลิตภัณฑ์เหล็กหน้าโรงงานอีก 100 หยวนต่อตันในเดือนก.พ. โดยนโยบายการขึ้นราคานี้จะมีผลกับผลิตภัณฑ์เหล็กเกือบทั้งหมดของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเหล็กรีดร้อน ซึ่งราคาจะเพิ่มขึ้นเป็น 5,102 หยวน จากระดับ 4,492 หยวน และผลิตเหล็กรีดเย็นจะสูงขึ้นมาอยู่ที่ 6,686 หยวนต่อตัน จากระดับ 5,336 หยวนต่อตัน
โดยทันทีที่เป่าสตีลประกาศขึ้นราคา เจียงซู ซากั่ง กรุ๊ป ซึ่งเป็นโรงงานเหล็กเอกชนรายใหญ่สุดของจีน ก็ได้ขึ้นราคาหน้าโรงงานอีก 50 หยวนต่อตัน สำหรับการจองสินค้าในช่วงกลางเดือนม.ค.
เป่าสตีล ซึ่งเป็นผู้นำในการกำหนดราคานั้น ได้ขึ้นราคาสินค้าครั้งแรกเมื่อกลางเดือนธ.ค. และหลังจากนั้นบริษัทเหล็กหลายราย เช่น วูฮั่น สตีล, อันกัง สตีล และเหอเป่ย สตีล ก็ได้ปรับราคาสินค้าของตนขึ้นเช่นกัน
หู หยานปิง นักวิเคราะห์ของ Custeel.com กล่าวว่า การขึ้นราคาเหล็ก 2 เดือนติดต่อกันนี้สอดคล้องกับที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้ว่า จะมีการขึ้นราคาเพื่อรับมือกับต้นทุนที่สูงขึ้น
ตลาดคาดว่า ราคาแร่เหล็กจะสูงขึ้นอีก 8-9% ในไตรมาสนี้ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนของโรงงานเหล็กในจีนสูงขึ้นอีกถึง 100 หยวนต่อตัน ขณะเดียวกัน ราคาถ่านหินโค้กก็ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่เกิดเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในออสเตรเลีย ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุปทานในประเทศซึ่งเป็นผู้ส่งออกถ่านหินโค้กชั้นนำของโลก