นายกฯ ชู"อินโดจีนใหม่"คว้าโอกาสผ่านความท้าทายเพื่อสันติ-ความรุ่งเรือง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 13, 2011 12:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานและกล่าวสุนทรพจน์เปิดงานสัมมนาในหัวข้อ"Indochina Vision: The Region of Opportunities and Challenges"ว่า ความก้าวหน้าไม่จำกัดแค่ภายในอนุภูมิภาคเท่านั้น แต่อินโดจีนใหม่ คือ กลุ่มประเทศที่เป็นส่วนมีความเกี่ยวพันธ์กันของอาเซียนที่จะกลายเป็นชุมชนเดียวไม่ถึง 4 ปีข้างหน้านี้

เมื่อนั้นชุมชนอาเซียนจะมีประชากรเกือบ 700 ล้านคน และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ(GDP)สูงถึง 2.69 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ และเขตการค้าเสรีอาเซียน(AFTA)รวมทั้ง ความตกลงการเปิดเสรีการค้าและการลงทุนระหว่างอาเซียนกับพันธมิตรต่างๆ ยิ่งเพิ่มศักยภาพและทำให้อาเซียนแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เมื่ออาเซียนกลายเป็น ชุมชนเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community)

สิ่งสำคัญเบื้องต้น คือ การอำนวยความสะดวกด้านการค้า โดยผ่าน ASEAN Green Lane, ASEAN Single Window และ Self-Certification schemes เพื่อช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจ ประเทศไทยในฐานะประเทศก่อตั้ง ถือเอาการสร้างความก้าวหน้าและพัฒนาอินโดจีน เป็นหัวใจเพื่อเป็นกำลังสำคัญของอาเซียน

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า “อินโดจีนใหม่" มีเป้าหมายเพื่อเป็นอนุภูมิภาคแห่งสันติ เสถียรภาพและความรุ่งเรือง ซึ่งมีทั้งโอกาสและความท้าทาย การเติบโตและความพยายามคงไว้ซึ่งความหลากหลายและก้าวให้ทันโลก ยิ่งไปกว่านั้นอินโดจีนใหม่ยังเป็นแหล่งทรัพยากรอันมีค่าทั้งในรูปของทรัพยากรมนุษย์และแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ จำนวนประชากรเฉลี่ยของกัมพูชา ลาวและเวียดนาม จะยังเด็กและเป็นแรงงานที่สำคัญ ซึ่งแรงงานและวัตถุดิบสำหรับการผลิตที่มีราคาถูกจึงมีศักยภาพในการแข่งขัน

และในด้านทรัพยากรพลังงานเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาได้เข้าร่วมพิธีเปิดเขื่อนน้ำเทิน 2 ในประเทศลาว ซึ่งภาคเอกชนของไทยได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้ ถือได้ว่าเป็นเขื่อนผลิตพลังงานไฟฟ้าที่เป็นแหล่งใหญ่ของลาว และจะมีส่วนช่วยส่งเสริมให้ลาวก้าวสู่การเป็น แบตเตอรี่ของเอเชีย

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีต่อการเปิดตลาดหลักทรัพย์ของลาว ขณะเดียวกันก็มีความพยายามในการดำเนินงานเพื่อยกระดับมาตรฐานชีวิตของประชาชน การศึกษา และตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเดินทางไปเยือนลาว เวียดนาม กัมพูชาและพม่า แสดงให้เห็นถึงความจริงใจและความปรารถนาดีในการเสริมสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์ฉันมิตร กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งรัฐบาลขอยืนยันในความตั้งใจที่จะร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งในฐานะเพื่อน ครอบครัวและหุ้นส่วน เพื่อความเติบโตและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

ทั้งนี้ ประเทศไทยยินดีที่จะส่งเสริมและสานต่อความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับประเทศเพื่อนบ้านอันตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นสากล คือ ไม่เข้าไปแทรกแซงกิจการภายใน การสร้างประโยชน์ร่วมกัน และเคารพซึ่งกันและกัน

"ความช่วยเหลือและร่วมมือระหว่างกันของอาเซียนมีมาหลายทศวรรษ ประเทศไทยยังคงพร้อมที่จะสร้างความเจริญก้าวหน้าและความรุ่งเรืองให้แก่ภูมิภาคนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เรายังต้องการขยายความร่วมมือแบบไตรภาคีกับประเทศที่สาม โดยเฉพาะในสาขาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และสาขาอื่นๆ ที่มีศักยภาพ"นายกรัฐมนตรี กล่าว

อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ายังคงมีความท้าทายรออยู่ภายในอนุภูมิภาค ทั้งการก้าวให้ทันกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน เพื่อให้อาเซียนเป็นใจกลางหลักของความร่วมกลุ่มในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเชียตะวันออก ความท้าทายสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การลดช่องของการพัฒนาและรายได้ ทั้งภายในและระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และทักษะของแรงงาน รวมทั้งการความยากจนและสภาพแวดล้อมทางสังคมที่ยังคงไม่ได้มาตรฐานต่างๆ ที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมายสหัสวรรษใหม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ