บริษัท โตเกียว โชโกะ รีเสิร์ช ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยสินเชื่อ รายงานว่า จำนวนบริษัทที่ล้มละลายในญี่ปุ่นปี 2553 ร่วงลง 14% จากระดับปี 2552 แตะ 13,321 แห่ง ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 14,000 แห่งเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี แต่ปริมาณหนี้สินของบริษัทที่ล้มละลายเหล่านี้กลับพุ่งขึ้น เนื่องจากบริษัทที่ล้มละลายในปีที่แล้วนั้นมีบริษัทรายใหญ่ๆหลายราย เช่น เจแปน แอร์ไลน์ส คอร์ป
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บริษัท โตเกียว โชโกะ รีเสิร์ช เปิดเผยว่า ขณะที่สาเหตุที่ทำให้ยอดบริษัทล้มละลายในปีที่แล้วลดลงนั้นมาจากการใช้มาตรการต่างๆของรัฐบาล เช่น ระบบการรับประกันเงินกู้ฉุกเฉิน และการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ธุรกิจขนาดเล็ก แต่จังหวะของการล้มละลายของบริษัทนั้นก็ชะลอตัวลงในช่วงสิ้นปี ขณะที่ผลพวงจากการใช้มาตรการต่างๆของรัฐบาลลดลง
หนี้สินของบริษัทล้มละลายในปีที่แล้วคิดเป็นมูลค่า 7.16 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 3.3% จากระดับปีที่แล้ว บริษัทขนาดใหญ่ที่ล้มละลาย 7 แห่ง ซึ่งมีหนี้สินอย่างน้อย 1 แสนล้านเยนต่อบริษัท คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณหนี้สินทั้งหมด
จากจำนวนบริษัทรายใหญ่ที่ล้มละลายทั้ง 7 แห่งดังกล่าว มีบริษัทรายใหญ่สุดที่ล้มละลาย 3 แห่ง ได้แก่ เจเอแอล และบริษัทในเครืออีก 2 บริษัท ได้แก่ อินคิวเบเตอร์ แบงก์ ออฟ เจแปน ที่มีหนี้สิน 6.80 แสนล้านเยน และบริษัทสินเชื่อผู้บริโภคอย่างทาเคฟูจิ คอร์ป ซึ่งมีหนี้สิน 4.33 แสนล้านเยน
ทั้งนี้ ยอดบริษัทล้มละลายทั้งหมดนั้นครอบคลุมบริษัทที่ล้มละลายทั่วประเทศ ซึ่งมีหนี้สิน 10 ล้านเยน หรือสูงกว่านั้น
บริษัท โตเกียว โชโกะ รีเสิร์ช ระบุว่า ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย เช่น ยอดขายที่ร่วงลง การผิดนัดชำระหนี้ คิดเป็นสัดส่วนสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 82.9% ของอัตราบริษัทล้มละลายทั้งหมด
เมื่อเทียบเป็นรายธุรกิจแล้ว บริษัทในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ล้มละลายนั้น ลดลง 26$ แตะ 441 แห่ง ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ลดลงมากที่สุดในบรรดาธุรกิจที่ได้ตอบรับการสำรวจ 10 ประเภท รองลงมาคือ ธุรกิจการเงินและประกัน และค้าส่ง ส่วนธุรกิจก่อสร้างซึ่งมีจำนวนบริษัทล้มละลายลดลง 13.7% แตะ 3,523 แห่ง ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2547
ธุรกิจการเกษตร ป่าไม้ ประมง และเหมืองแร่เป็นเพียงภาคธุรกิจเดียวที่มีจำนวนบริษัทล้มละลายเพิ่มขึ้น โดยจำนวนบริษัทล้มละลายในภาคธุรกิจดังกล่าวมีจำนวนเพิ่มขึ้น 20.7% แตะ 93 แห่ง