นายเฉลิมชัย มีคุณเอี่ยม ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) กล่าวว่า กทท.ได้ลงนามในสัญญาจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาซึ่งมีบริษัท ทีม คอลซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด เป็นแกนนำ เพื่อศึกษาความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ วิศวกรรม สิ่งแวดล้อม และออกแบบรายละเอียด สำหรับการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่ 3 โดยมีค่าว่าจ้างที่ปรึกษาจำนวน 140 ล้านบาท และการศึกษาครั้งนี้จะศึกษาทั้งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และด้านสุขภาพ ใช้ระยะเวลาศึกษา 375 วัน สิ้นสุดวันที่ 30 ม.ค.55 และจะใช้เวลาก่อสร้างอีกประมาณ 3 ปี ตั้งเป้าเปิดให้บริการภายในปี 62
เบื้องต้น กทท.มีแนวคิดที่จะเปิดให้เอกชนเข้าร่วมดำเนินการในลักษณะรัฐร่วมเอกชน (PUBLIC PRIVATE PARTNERSHIP:PPP) โดยรัฐบาลจะลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและให้เอกชนลงทุนในการบริหารจัดการท่าเรือ แต่รายละเอียดการร่วมลงทุนนั้นต้องรอผลการศึกษาดังกล่าวก่อน โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในการก่อสร้างประมาณ 1-2 หมื่นล้านบาท
"การท่าเรือฯจำเป็นต้องเตรียมศึกษาออกแบบก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่ 3 เพื่อรองรับปริมาณตู้สินค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีๆ ละประมาณ 10% คาดว่าท่าเรือแหลมฉบังจะเต็มขีดความสามารถในการรองรับสินค้าในปี 58 โดยท่าเรือแหลมฉบังสามารถรองรับตู้สินค้าปีละ 10.8 ล้านทีอียู และรองรับการนำเข้าส่งออกสินค้ารถยนต์ได้ปีละ 2 ล้านคัน" นายเฉลิมชัย กล่าว