การเคลื่อนไหวดังกล่าวมุ่งสร้างเสถียรถาพด้านราคาของน้ำมันประกอบอาหารก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งในปีนี้ตรงกับช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ จีนเพิ่งขายน้ำมันเรพซีดทั้งหมด 92.22% จากยอด 98,334 ตันที่นำออกประมูลขายเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ณ ราคาขายเฉลี่ย 9,682 หยวน/ตัน
-- ความแห้งแล้งที่แผ่ปกคลุมมณฑลเหอหนานในภาคกลางของจีน ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกข้าวสาลีในช่วงฤดูหนาวถึง 16.23 ล้าน mu (1.08 ล้านเอคตาร์) โดยพื้นที่ 114,000 เฮคตาร์ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
เจ้าหน้าจากกรมอุตุนิยมวิทยาของจีนคาดว่า ภัยแล้งจะยังคงอยู่สร้างความเสียหายต่อบางพื้นที่ต่อไป
ทั้งนี้ มณฑลเหอหนานถือเป็นแหล่งเพาะปลูกธัญพืชรายใหญ่สุดของจีน โดยมีปริมาณผลผลิตธัญพืช 1 ใน 10 ของประเทศ รวมทั้งมีผลผลิตข้าวสาลีถึง 1 ใน 4 ของประเทศ
นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ภัยแล้งได้สร้างความเสียหายแก่พื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญของประเทศถึง 6 มณฑล ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมกันว่า 80% ของผลผลิตทั้งหมดของประเทศ
-- ผลการสำรวจของสถาบันฝ้ายแห่งวิทยาลัยเกษตรกรรมของจีน พบว่า ดัชนีการผลิตฝ้าย (Cotton Production Prosperity Index) ของจีนในปีการเพาะปลูก 2554/55 คาดว่าอาจลดลง 50 จุดเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ สถาบันฯ คาดว่า พื้นที่เพาะปลูกฝ้ายของจีนจะเพิ่มขึ้นในระดับปานกลางตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น และราคาฝ้ายนำเข้าจะยังไม่เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากปี 2553/54
-- ชุย ชีเหว่ย นักวิเคราะห์จาก WDFCO Futures Co. คาดว่า ผลผลิตน้ำตาลประจำปี 2553 ของจีนอาจลดลง 300,000 ตัน เมื่อเทียบกับตัวเลขของปี 2552 เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวจัดและน้ำค้างแข็ง ส่งผลให้พื้นที่เพาะปลูก 13% ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกรายใหญ่ของประเทศ ได้รับความเสียหาย
โดยนายชุย ระบุว่า น้ำค้างแข็งมีผลกระทบต่อพื้นที่ปลูกอ้อยราว 40% ของมณฑลกว่างซี
ทั้งนี้ มณฑลกว่างซีมียอดผลิตน้ำตาล 66% ของปริมาณทั้งหมดที่ผลิตได้ในฤดูกาลหีบอ้อยปี 2552/53 ของจีน โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า หากผลผลิตในมณฑลลดลงจะทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน สำนักข่าวซินหัวรายงาน