World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 17 มกราคม 2554

ข่าวต่างประเทศ Monday January 17, 2011 16:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายตง ตียี่ นักวิเคราะห์จากลองวิน แอสเซท เมเนจเมท์ กล่าวว่า การที่ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) อีก 0.50% จะส่งผลกระทบต่อภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร และตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน พร้อมระบุว่า การเพิ่มเพดาน RRR สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่จะควบคุมเงินเฟ้อและภาวะฟองสบู่ภายในประเทศ และคาดว่าธนาคารกลางจีนจะใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นหากการเพิ่มเพดาน RRR ครั้งล่าสุดเห็นผลช้าว่าที่ประเมินไว้

-- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้ง ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ของกรีซลง 1 ขั้น สู่ระดับ BB+ หรือระดับขยะ (ระดับที่ไม่น่าลงทุน) พร้อมกับให้แนวโน้มเป็นลบ

-- ไชน่า อินฟอร์เมชัน นิวส์ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ภายใต้การบริหารของสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน รายงานในวันนี้ว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ใน 70 เมืองใหญ่ของจีนขยายตัว 6.4% ในเดือนธ.ค. ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8

-- นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวขึ้นในระดับปานกลาง แม้ว่าจังหวะของการขยายตัวจะชะลอตัวลง ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการอุปโภคบริโภคและการผลิตที่อ่อนตัวลง

-- มายสตีล บริษัทผู้ให้บริการด้านข้อมูลเหล็กเปิดเผยว่า ดัชนีคอมโพสิตราคาเหล็กในจีนเมื่อวันที่ 10-14 ม.ค.สูงขึ้น 1% แตะ 71.1 จุด จากระดับสัปดาห์ก่อนหน้านั้น โดยบริษัท เป่าสตีล, วิสโก้ และชูกัง ซึ่งเป็นบริษัทเหล็กรายใหญ่ของจีนได้ขึ้นราคาเหล็กหน้าโรงงานไปเมื่อเร็วๆนี้ เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่พุ่งสูงขึ้น

-- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรสกุลเงินต่างประเทศและสกุลเงินรูเปียห์ของรัฐบาลอินโดนีเซียขึ้นสู่ระดับ Ba1 จากระดับ Ba2 พร้อมกับให้แนวโน้มมีเสถียรภาพ โดยระบุว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียมีความยืดหยุ่น และสถานะหนี้ที่ฟื้นตัวขึ้น

-- สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสวนน้ำระบุว่า ภาพเหตุการณ์น้ำท่วมในรัฐควีนส์แลนด์ในสื่อต่างๆนั้น จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในประเทศ

-- สำนักคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันในเดือนธันวาคม ซึ่งต่อเนื่องยาวนานที่สุดนับตั้งแต่รัฐบาลเริ่มเก็บข้อมูลสถิติรายเดือนในปี 2547 โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะการลดขนาดมาตรการของรัฐบาลในการกระตุ้นอุปสงค์ภาคเอกชน

-- จีนได้เรียกร้องให้นานาประเทศยกระดับการปฏิรูปด้านการเงิน และเสริมสร้างพันธมิตรทางการค้าใหม่ๆ ทั่วโลกให้เติบโตอย่างเท่าเทียมและมีความสมดุลมากขึ้น

-- ผลการสำรวจรายเดือนของบริษัทหลักทรัพย์ ทีดี ซิเคียวริตี้ส์ และ สถาบันเมลเบิร์นเพื่อการวิจัยสังคมและเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ พบว่า อัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียปรับตัวสูงขึ้นในเดือนธันวาคม

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ปรับลดการประเมินเศรษฐกิจของ 7 ใน 9 ภูมิภาคของประเทศ ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการส่งออกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่อ่อนแอ

-- ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ของจีน เปิดเผยก่อนเดินทางเยือนสหรัฐกับวอลล์ สตรีท เจอร์นัล และวอชิงตัน โพสต์ว่า จีนจะยึดมั่นในนโยบายเปิดกว้างและสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศอย่างแข็งขันและมีประสิทธิภาพ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ