อังค์ถัดเผยประเทศกำลังพัฒนาดึงดูด FDI ได้มากกว่าประเทศพัฒนาแล้วในปี 53

ข่าวต่างประเทศ Tuesday January 18, 2011 09:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ที่ประชุมองค์การสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังค์ถัด เปิดเผยว่า ประเทศกำลังพัฒนาและประเทศที่มีการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจ สามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ได้มากกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นครั้งแรกในปี 2553

หน่วยงาน Global Investment Monitor ของอังค์ถัด รายงานว่า FDI ทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อนหน้า แตะที่ 1.122 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2553 โดยประเทศกำลังพัฒนาและประเทศที่มีการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจอย่างรัสเซียและประเทศในยุโรปตะวันออก ครองสัดส่วน FDI ถึง 53% ของทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก 49% ในปีก่อนหน้า

ในปี 2553 FDI ของประเทศพัฒนาแล้วลดลง 7% ส่วน FDI ของประเทศกำลังพัฒนาเพิ่มขึ้นเกือบ 10%

อย่างไรก็ตาม เจมส์ ซาน ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนและองค์กรของอังค์ถัด กล่าวว่า ยังไม่สามารถแน่ใจได้ว่า FDI ของประเทศกำลังพัฒนาจะขยายตัวอย่างยั่งยืนในระยะยาว เนื่องจากประเทศกำลังพัฒนายังมีความสามารถในการดึงดูด FDI ในวงจำกัด

เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว FDI ของปี 2553 ยังคงน้อยกว่าระดับสูงสุดที่ 2.15 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2550 อยู่มาก

สหภาพยุโรปยังคงดึงดูด FDI ได้มากสุดที่ 2.899 แสนล้านดอลลาร์ แต่ก็ลดลง 19.9% เมื่อเทียบกับปี 2552 ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกาที่ 1.861 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 43.3% จากปีก่อนหน้า และจีนแผ่นดินใหญ่รวมฮ่องกงตามมาเป็นอันดับสามที่ 1.636 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14% จากปี 2552

ส่วน FDI ของญี่ปุ่นร่วงลง 83.4% แตะที่ 2 พันล้านดอลลาร์ในปี 2553 อันเนื่องมาจากการที่หลายบริษัทถอนการลงทุนจากญี่ปุ่น อย่างการที่บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ ขายหุ้นที่ถือในบริษัท มาสด้า มอเตอร์ คอร์ป

นายซานกล่าวว่าเขามองปี 2554 ในแง่บวก โดยเขาคาดว่า FDI ปีนี้จะอยู่ที่ราว 1.3-1.5 ล้านล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวของ FDI อาจได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวช้าลง รวมถึงการกีดกันทางการค้า วิกฤตหนี้สิน และสกุลเงินที่ผันผวน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ