กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดการซื้อหลักทรัพย์และพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐจากนักลงทุนต่างชาติในเดือนพ.ย.มีมูลค่าทั้งสิ้น 8.51 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 2553 เมื่อเทียบกับยอดซื้อในเดือนต.ค.ที่ระดับ 2.89 หมื่นล้านดอลลาร์
ปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติยังคงถือครองหลักทรัพย์และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมาจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป นอกจากนี้ การทะยานขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อหลักทรัพย์และพันธบัตรสหรัฐ โดยดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นกว่า 21% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
การเพิ่มขึ้นของยอดการเข้าซื้อหลักทรัพย์และพันธบัตรโดยรวมจากนักลงทุนต่างชาติ สามารถชดเชยผลกระทบของการที่จีนซึ่งเป็นเจ้าหนี้ต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐได้ปรับลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐลง 1.12 หมื่นล้านดอลลาร์