นักเศรษฐศาสตร์ระดับอาวุโสจากธนาคารดอยช์แบงก์เผยว่า อัตราเงินเฟ้อจะยังเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดของอินโดนีเซียในปีนี้ ในยามที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจมีอัตราเร่งเร็วขึ้น
"อินโดนีเซียเล็งเห็นถึงการขยายตัวที่โดดเด่นในปีงบการเงิน 2553 แต่สำหรับปีนี้อาจเป็นเรื่องยากที่อินโดนีเซียจะขยายตัวได้เหมือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะในยามที่ประเทศเผชิญแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจอินโดนีเซียยังมีแนวโน้มที่เป็นบวกอยู่มาก" ไทเมอร์ เบ็ก ผู้อำนวยการและนักเศรษฐศาสตร์จากดอยช์แบงก์กล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การแสดงความเห็นจากนักเศรษฐศาสตร์ในครั้งนี้มีขึ้น หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารโลกชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อและการไหลบ่าของเงินทุนเป็นภัยคุกคามที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจอินโดนีเซีย
ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์แนะว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซียควรใช้มาตรการเชิงรุกรับมือกับอัตราเงินเฟ้อที่อาจพุ่งขึ้นเหนือระดับ 7% ในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากระดับในปี 2552 เนื่องจากราคาอาหารปรับตัวสูงขึ้น
ด้านธนาคารกลางอินโดนีเซียได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.5% นับตั้งแต่เดือนส.ค.2552 แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ย พร้อมทั้งคาดว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียอาจขยายตัวได้ 6.4% ในปีนี้จากที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้ 6% ในปี 2553
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า ปี 2554 จะเป็นปีที่อินโดนีเซียเผชิญปัญหาต่างๆ ที่ยุ่งยากมากขึ้น แต่ก็เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติยังคงให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศ