World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Thursday January 20, 2011 09:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับผลประกอบการของสถาบันการเงินรายใหญ่อย่าง โกลด์แมน แซคส์ และสถาบันการเงินขนาดกลางอีกหลายแห่ง นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานตัวเลขสร้างงานของสหรัฐที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 12.64 จุด หรือ 0.11% แตะที่ 11,825.29 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 13.10 จุด หรือ 0.01% แตะที่ 1,281.92 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลง 40.49 จุด หรือ 1.46% ปิดที่ 2,725.36 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการสร้างบ้านที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี และโกลด์แมน แซคส์ รายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงถูกกดดันจากข่าวที่ว่าบริษัท อัลเยสกา ไพพ์ไลน์ ได้เริ่มลำเลียงน้ำมันในสหรัฐแล้ว หลังจากที่ปิดซ่อมรอยรั่วเป็นเวลาหลายวันก่อนหน้านี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่า สถานการณ์ด้านอุปทานพลังงานในสหรัฐเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 52 เซนต์ หรือ 0.57% ปิดที่ 90.86 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 90.47 - 92.10 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 1.03 เซนต์ ปิดที่ 2.6562 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 0.24 เซนต์ ปิดที่ 2.4816 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 36 เซนต์ ปิดที่ 98.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งทำให้สัญญาทองคำมีมูลค่าน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองเงินสกุลอื่นๆ แต่สัญญาโลหะทองแดงซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสร้างงานที่ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 2.00 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,370.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,365.50 - 1,378.90 ดอลลาร์

-- ค่าเงินยูโรยังคงแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป นอกจากนี้ ยูโรยังได้แรงหนุนหลังจากรัฐบาลเยอรมนีปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2554 ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของประเทศยุโรปมากขึ้น ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงหลังจากตัวเลขสร้างงานเดือนธ.ค.ของสหรัฐดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.68% แตะที่ 1.3470 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3379 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.18% แตะที่ 1.5984 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5956 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.70% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.030 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 82.610 เยน และดิ่งลง 0.93% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9547 ฟรังค์ จากระดับ 0.9637 ฟรังค์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.25% แตะที่ 1.0001 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 0.9976 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลง 0.19% แตะที่ 0.7692 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7707 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดตลาดปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่หุ้นค้าปลีกของอังกฤษร่วงลง เนื่องจากผลกำไรได้รับผลกระทบจากยอดขายที่ตกต่ำในช่วงคริสต์มาส

ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลเยอรมนีให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งว่า เยอรมนีควรกันเม็ดเงินไว้เตรียมพร้อมสำหรับการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วง 79.73 จุด หรือ 1.32% ที่ 5,976.70


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ