ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ได้เรียกร้องให้จีนดำเนินการมากขึ้น เพื่อทำให้เงินหยวนอ่อนค่าลง โดยการเรียกร้องดังกล่าวมีขึ้นในช่วงการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ของจีน
โอบามา ซึ่งตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากวุฒสภาและกลุ่มผู้ผลิตที่ต้องอดทนกับการปฏิรูปสกุลเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นน้อยมากนั้น ได้ผลักดันให้ทางการจีนเดินหน้า เพื่อผลักดันอัตราแลกเปลี่ยนให้เคลื่อนไหวอย่างสอดคล้องกับตลาดมากขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า แถลงการณ์ร่วมที่ได้มีการเปิดเผยภายหลังการประชุมสุดยอดที่ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐระบุว่า จีนจะยังคงสนับสนุนให้มีการปฏิรูปอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน
แต่ในขณะที่ข้อความในแถลงการณ์นั้นคล้ายคลึงกันกับแถลงการณ์ที่ทางธนาคารกลางจีนได้เผยแพร่เมื่อเดือนมิ.ย. 2553 แถลงการณ์ร่วมฉบับจึงไม่ได้ระบุถึงเรื่องคำร้องขอจากทางสหรัฐในเรื่องการเร่งปฏิรูปสกุลเงินหยวน
อย่างไรก็ดี สหรัฐให้คำมั่นว่า จะพุ่งเป้าไปที่การลดยอดขาดดุลในระยะกลางของทางรัฐบาล และให้คำมั่นว่าจะดูแลสถานภาพทางการเงินในระยะยาวให้เป็นไปอย่างยั่งยืน
ผลลัพธ์จากการประชุมสุดยอดนี้ชี้ให้เห็นว่า จีนซึ่งพัฒนาขึ้นมาเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลกนั้น มีอิทธิพลมากขึ้น โอบามากล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐนั้นขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจจีน โดยการส่งออกจากสหรัฐไปยังจีนขยายตัวเร็วขึ้นเกือบ 2 เท่าของการส่งออกจากสหรัฐไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก
กลุ่มนักสังเกตการณ์กล่าวว่า นับตั้งแต่จีนเป็นประเทศผู้ถือตราสารหนี้รายใหญ่ของสหรัฐ สถานะทางการคลังที่ย่ำแย่ลงของสหรัฐอาจจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทางการเงินของจีน และทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนที่มีอยู่จำนวนมาก
ในการแถลงข่าวร่วมภายหลังการประชุมนั้น โอบามาได้วิจารณ์นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของจีนว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้เข้าไปแทรกแซงตลาดด้วยการใช้เงินสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์เมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งบ่งชี้ได้ถึง สกุลเงินหยวนนั้นยังอ่อนค่าอยู่
แต่มีการคาดการณ์ว่า ประธานาธิบดีหู ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในปี 2556 คงจะไม่เสี่ยงที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจประเทศอย่างพลิกผัน